พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

รายการที่ 722

พระสมเด็จหน้าหนู_เนื้อผงน้ำมัน_พิมพ์ใหญ่_วัดหนองปลิง จ.นครสวรรค์ ปี 2509

บูชา 900 บาท

พระสมเด็จหน้าหนู หลังยันต์นะ จัดสร้างปี พ.ศ.2509
เนื้อพุทธคุณผงน้ำมัน สูตรเดียวกับพระสมเด็จพุทธกวัก

หลวงพ่อกวย ได้ทำการจัดสร้างพระสมเด็จพิมพ์นี้ขึ้นเพื่อนำไปเข้าร่วมงานที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมา ของวัดหนองปลิง และได้นำพระบางส่วนใส่ลงในโอ่ง แล้วนำไปบรรจุกรุไว้บริเวณ ใต้ฐานพระประธานในอุโบสถหลังเก่า

พระเครื่องชุดนี้ทำการเปิดกรุ เมื่อปี พ.ศ.2548 เมื่อครั้งทางวัดหนองปลิง จะทำการบูรณะและปรับปรุงพระอุโบสถหลังเก่าให้เป็นวิหาร
โดยครั้งนั้นทางวัดขุดพบไหอยู่ 2 ใบ ภายในบรรจุพระเครื่องรวมๆแล้วหลายพันองค์ รวมถึง
เหรียญรุ่นเเรกของหลวงพ่อกวย 1เหรียญ,
กุมารทอง 1ตัว,
พระสมเด็จหลังรูปเหมือนหลวงพ่อกวยร่วม 10 องค์
ส่วนด้านล่างสุดเป็นพระสมเด็จเนื้อผงน้ำมันมีอยู่จำนวนพอประมาณ และพระเครื่องของหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว และหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคอีกจำนวนหนึ่ง

รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษก เท่าที่มีข้อมูล อาทิ
- หลวงพ่อพรหม วัดช่องเเค
- หลวงพ่อกวย วัดบ้านเเค
- หลวงพ่อกัน วัดเขาเเก้ว
- หลวงพ่อจันทร์ วัดคลองระนง
- หลวงพ่อทิม วัดช้างไห้เป็นต้น

อดีตทางวัดหนองปลิงนำพระจำนวนนึงมาถวายที่วัดหลวงพ่อ เปิดให้บูชาองค์ละ 3,000 บาท

 

รายการที่ 723

พระสมเด็จหูบายศรีเศียรโต ยุคแรก ปี2500
เนื้อผงผสมดิน(เนื้อแหวกม่าน) หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท

พระสมเด็จหูบายศรีเศียรโต พระพิมพ์มี2แบบ ลักษณะพิมพ์ทรงเหมือนกันขนาด 2.5×3 ซ.ม.เท่ากัน แยกพิมพ์ทรงกันที่น่าอก คือ พิมพ์อกใหญ่กับพิมพ์อกเล็ก เป็นพระยุคแรกที่ หลวงพ่อกวย ท่านสร้างพร้อมกันกับ พระสมเด็จแหวกม่านพิมพ์อกใหญ่ เนื้อเดียวกัน เพราะฉนั้"พระสมเด็จหูบายศรีเศียรโต"ใช้แทนพระสมเด็จแหวกม่านได้ครับ พุทธคุณไม่แตกต่าง แต่ต่างมากๆก็ที่ราคาครับ

บูชา 3,000 บาท องค์นี้แท้ดูง่าย รับประกันพระสากลทุกสนาม

 

รายการที่ 724

เหรียญพระปรกใบมะขามท่านเจ้าคุณนรฯ หลังจารตัวนะ ปี 2513

พร้อมตลับเงิน รับประกันแท้สากล

บูชา 1,800 บาท เฉพาะเหรียญเมื่อก่อนหลายพันครับ

 

รายการที่ 725

เหรียญหลวงพ่อชาญณรงค์ ปี2559

เพราะการจัดสร้างดี มีประสบการณ์ ปัจจุบันหายาก เคยเช่าบูชากันไปหลายๆพันครับ

บูชา 1,200 บาท

 

รายการที่ 726

ตะกรุดไม้รวกหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู

ตะกรุดไม้รวกหลวงปู่จัน วัดนางหนู ดอกนี้ ถักเชือกลงรักมีความแห้งเก่าถึงยุค ดูง่าย สุดยอดเครื่องรางฯในยุคสงครามอินโดจีน
...ตะกรุดไม้ไผ่ยอดด้วนของท่านหลวงปู่จันวัดนางหนูนั้น เป็นที่เล่าขานถึงความเป็นตะกรุดมหาอุดอย่างฉกาจฉกรรณ์ ร่ำลือไปทั่วในช่วงสงครามอินโดจีนเพราะท่านได้นำของ "ทนสิทธิ์"ตามธรรมชาติโดยการทำตะกรุดไม้ไผ่ยอดด้วนนั้นจะต้องใช้ไม้ไผ่ยอดด้วนที่อยู่กลางกอไผ่ที่ถูกไฟไหม้เพราะถือว่า ไม้ไผ่ที่อยู่กลางกอและไม่ไหม้ไฟนั้นจะมีความวิเศษ เป็นมหาอุดอยู่ในตัวอยู่แล้วโดยจะทำพิธีพลี และนำมาทำตะกรุดโดยลงอักขระเลขยันต์ "นะวิเศษ" แล้วบรรจุผงพุทธคุณของอาถรรพ์ต่างๆ แล้วจึงอุดด้วยครั่งหรือชันโรงฯลฯ ดอกนี้ เขย่า ด้านในมีของชัดเจน รับประกันไม่ยัดเกจิ

บูชา 4,000 บาท

 

รายการที่ 727

ตะกรุดพอกผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

แบบนี้ชัดเจน เก่าถึงยุค

บูชา 6,500 บาท

 

รายการที่ 728

ปะคำหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

เป็นปะคำยุคแรกๆ ที่ท่านใช้ทำลูกอมครับ หายาก ถ้าเป็นคนที่หัวการค้าจะแกะออกให้บูชาทีละเม็ดครับ แต่ได้มาแบบนี้ เจ้าของค่อนข้างหวง ยาวสวมหัวได้ เผื่อมีท่านใดสนใจ

บูชา 4,500 บาท รับประกันสากล

 

รายการที่ 729

เสือเขากระทิงแกะ

สายคลองด่าน เก่าเกิน 70 ปี มีจาร

บูชา 2,700 บาท

 

รายการที่ 730

เหรียญพระมหาชนก เนื้อเงิน พิมพ์เล็ก

บูชา 2,500 บาท แกะจากกรอบทองออกมา รับประกัน เมื่อก่อนต้องมี 3,500 ขึ้นครับ

 

รายการที่ 731

ปิดตาท้องอุรุ่นแรกเนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 หายากสุดๆ

บูชา 5,500 บาท

พ่อท่าน เขียว เกิดปี พ.ศ. 2424 อุปสมบทที่วัดคงคาวดีเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านศึกษาวิชากับสำนักพ่อท่านเอียด วัดหรงบน ซึ่งเชี่ยวชาญวิปัสสนา คาถาอาคม อักขระโบราณต่าง ๆ พ่อท่านเป็นพระคงแก่เรียน ปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีอาจารย์ดีหลายท่านถ่ายทอดวิชาอาคมให้ พ่อท่านเขียวออกธุดงค์ จาริกตามป่าเขาในเขตภาคใต้จนถึงปี 2459 ท่านกลับไปวัดหรงบนแต่อาจารย์เอียดมรณภาพไปแล้ว ชาวบ้านจึงอาราธนาท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหรงบน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับอาจารย์นำ วัดดอนศาลาและพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ซึ่งทั้งสามท่านได้รับนิมนต์ร่วมในงานปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่มที่ วัดกลางบางแก้วในปี 2513 เกียรติคุณของพ่อท่านเขียวยิ่งโด่งดังเมื่อท่านมรณภาพแล้ว (ปี 2519) ทางวัดทำพิธีฌาปนกิจท่านแต่ปรากฏว่าเผาแล้วร่างท่านไม่ไหม้ไฟ แม้กระทั่งจีวรเก็บไว้ก็ไม่เน่าเปื่อยกลายเป็นหินเป็นความมหัศจรรย์จากความ ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านเขียว


พ่อท่าน เขียว วัดหรงบน สมัยท่านมีชีวิตอยู่คนไม่ค่อยจะรู้จัก เคยอ่านพบในหนังสือเล่มหนึ่งว่าตอนที่ท่านมาปลุกเสกพระกริ่งพุทธชัยศรีที่ วัดกลางบางแก้วช่วงที่นั่งพักผ่อน ญาติโยมที่ไปร่วมงานไม่มีใครสนใจท่านเพราะไม่เป็นที่รู้จัก แต่พระดังๆในสมัยนั้นคนรุมล้อมเพียบ

คนที่เขียน บทความนั้นก็ไม่รู้จักท่านแต่ได้เข้าไปถามท่านว่ามาจากไหน ท่านบอกว่ามาจากวัดหรงบน ท่านได้มอบรูปหล่อให้ด้วย ตอนท่านอยู่ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักในวงแคบ วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายในพื้นที่ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ จนหลังจากท่านมรณภาพไปแล้วก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ท่านมาดังเอาจริง ๆจัง ๆก็ตอนงานฌาปนกิจศพของท่าน หลังจากท่านมรณภาพแล้วศพของท่านไม่เน่าเปื่อย กลับแข็งเป็นหิน พอถึงวันฌาปนกิจ ศพของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่จีวรห่อศพก็ไม่ไหม้ เป็นที่อัศจรรย์ ทางวัดจึงเก็บสรีระของท่านเอาไว้ให้คนไปกราบไหว้ นอกจากสังขารของท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้ว เล็บและผมของท่านงอกยาวออกมาเรื่อยๆ ต้องได้ปลงทุกปี

วัตถุมงคล อย่างหนึ่งที่ท่านได้สร้างเอาไว้ องค์นี้ก็คือ พระปิดตา ซึ่งสร้างเพื่อแจกแก่ผู้มาร่วมทำบุญในงานก่อเจดีย์ทรายของวัดหรงบนในปี 2510 พ่อท่านเขียวได้มอบผงวิเศษให้ลูกศิษย์นำไปผสมกับมวลสารอย่างอื่น เช่น ว่าน เกสรดอกไม้ ดินกรุ ชันโรง ชานหมาก เส้นเกศา ฯลฯ โดยนำมวลสารมาคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยมี "น้ำนมควาย" เป็นตัวผสมช่วยในการประสานเนื้อพระ โดยในครั้งนั้นได้พระจำนวนมากพอสมควร จากนั้นท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอด 15 คืน แล้วนำออกแจกในงานก่อเจดีย์ทราย เมื่อปี 2510 พระปิดตารุ่นนี้ส่วนมากเนื้อหาจะแก่ว่านและผงมาก มีหลายโซนสีทั้งสีออกแดง ,เทา สีใบลานผิวไขหว่านขาว ๆ นอกจากนี้ในคราวเดียวกัน พ่อท่านเขียวก็ได้สร้างพระปิดตาด้วยเนื้อตะกั่วลงถม ขนาดเท่านิ้วก้อย อีกด้วยจำนวนการสร้างก็พอ ๆ กับเนื้อว่านผสมชานหมาก

ว่าไปแล้ว ชาวบ้านทางใต้ เขานิยมใช้พระปิดตาของท่าน มากกว่าเหรียญกับรูปเหมือนของท่านเสียอีกเพราะท่านพูดเสมอๆ ว่าเหรียญกับรูปเหมือนเป็นของที่คนอื่นทำมาให้ท่านปลุกเสก สู้ของที่ท่านทำเอง สร้างเองไม่ได้ ประสบการณ์ก็ดีครบทุกด้าน ตั้งแต่เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตม์

ท่านบอกวัน มรณะภาพให้ศิษย์และพระในวัดรู้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจกันนัก คงจะลืม แล้วท่านก็จากไปด้วยความสงบเมื่อเผาร่างของท่านเป็นชั่วโมง ๆ ไฟที่จุดนั้นไม่ลุกติดจีวรของท่านเลยแสดงถึงบุญอภินิหาร และท่านฉันว่านยาเป็นนิจ ทำให้ร่างกายของท่านเผาไม่ไหม้ไฟปัจจุบันร่างท่านแข็งเป็นหินไปแล้วพระสงฆ์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดว่ามรณะภาพแล้วเผาไฟก็ไม่ไหม้ นานไปร่างก็แข็งเป็นหินอีก ในประเทศไทยมีกี่รูปกันครับ