พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

.........

 

3966.เหรียญหลวงปู่ชอบ “รุ่นอุดมพร” เนื้อทองฝาบาตร ให้บูชา 650 บาท เลี่ยมกันน้ำพร้อมบูชา

เหรียญรุ่นนี้ออกที่วัดท่าแขก อ.เชียงคาน จ.เลย มีคณาจารย์สายวัดป่ามานั่งปรกปลุกเศกทั้งคืนเป็นจำนวนมาก โดยหลวงปู่ชอบ ท่านเป็นประธานในพิธี ปลุกเสกนานถึง 4 ชั่วโมง..​

 

3967. ชุดวัตถุมงคล หลวงพ่อดาบส อริยะสงฆ์ผู้มีหัวใจแปรสภาพเป็นมรกต

-จีวรลงอักขระ ด้านในใส่เกศา หลวงพ่อดาบส อาศรมไผ่มรกต
-สมเด็จหลังพระธาตุน้อย เนื้อว่านผสมเกศา หลวงพ่อดาบส ออกที่สำนักสงฆ์ถ้ำจักรพรรดิ อ.ลอง จ.แพร่


***ให้บูชา ชุดละ 1600 บาท

​

“หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่าน นอกจากนี้ ในวันเผาสรีระของท่าน แต่หัวใจของท่าน กลับเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น "สีเขียวมรกต" อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ปรากฏเป็นอัศจรรย์ ท่ามกลางสายตาของผู้ร่วมพิธีนับพันคน นั่นก็คือมีแสงรุ้งรัศมีขึ้นบนท้องฟ้า ในขณะพิธีฌาปนกิจศพของท่านด้วย เหมือนกับท่านบอกว่าเป็นนัยยะว่า นับประสาอะไร..อุปสรรคเช่นนี้ที่เป็นเปลวไฟของกิเลส จะมาย่ำยีท่านได้ ผลที่สุด "หัวใจ" ท่านจึงได้กลายเป็นอมตะ หลุดพ้นจากไฟกิเลสที่เผาผลาญทั้งปวง จึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป

 

3968.เหรียญหลวงปู่ทวด (พระศรีอาริย์ฯ) รุ่นพลังแผ่นดิน พ.ศ.2551 จัดสร้างโดย คนวังหน้า ให้บูชา 650 บาท

​

อธิษฐานจิตอัญเชิญ หลวงพ่อทวด ตามพิธีแบบโบราณ พร้อมทั้งเข้าพิธีเททองพระกริ่งดีหลวง ซึ่งมี หลวงพ่อถม วัดเชิงท่า ศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นประธาน พร้อมด้วย การสวดมนต์จักรพรรดิ์ 108จบ โดยหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ ศิษย์หลวงพ่อดู่ วัดสะเเก ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชชาเปิดโลกอันลือลั่น และ พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ศิษย์หลวงปู่สี วัดสะเเกผู้สืบทอดวิชชาสร้างพรหมอันลือลั่นสายอาจารย์เฮง ไพรวัลย์
ด้านหน้า เป็นรูปลักษณ์พระศรีอาริยเมตไตร ซึ่งเป็นพระของวัดไลย์ ลพบุรี อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ วัดเชิงท่า ลพบุรีอีกด้วย อีกทั้งพระศรีอาริยเมตไตรเป็นความเชื่อหนึ่งที่พบว่าปรากฏทั่วทุกภาคทั้งภาคใต้เเละภาคกลาง ภาคเหนือ ซึ่ง มักมีคนกล่าวเสมอๆว่า หลวงพ่อทวดเป็นพระศรีอาริยเมตไตรกลับชาติมาเกิด เมื่อประโยคดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจึงเป็นเเรงบันดาลใจให้ทำลักษณะพุทธซ้อนโดยเป็นพระศรี ในรูปลักษณะพระสาวกอยู่บนเเละหลวงพ่อทวดอยู่ล่าง ซึ่งหมายความว่ามีความเกี่ยวพันธ์กัน อีกทั้งชื่อรอบข้างบ่งความหมาย ไม่ว่าจะเป็น สมเด็จพระราชมุนี สมเด็จเจ้าพะโคะ เจ้าสามีราม สามีราโมภิกขุมหาเถระ อันเป็นนามเดิมเเท้ของหลวงพ่อทวดตามประวัติศาสตร์ที่ปรากฏไว้จึงนำมาจารึกไว้บนเหรียญเพื่อเผยเเพร่ประวัติของท่านไว้ด้วย
ด้านหลังอัญเชิญพระคาถาหลวงพ่อทวดและพระคาถาอื่นทั้งนะฤาชา ทั้งพระยันต์จินดามณี มาใส่ไว้หลังเหรียญเพื่อให้เกิดพุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม เจริญยศเลื่อนฐานะ หนุนดวง อีกทั้ง อัญเชิญพระบวรราชโองการ ของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาถ ที่ว่าจะทำการครั้งนี้ให้มีชัย จะไว้เกียรติให้สืบไปทั้งเเผ่นดิน และด้านข้างๆขนาบเขียนว่า ไทยรู้รักสามัคคี พลังแผ่นดิน ความหมายชัดเจนไม่ต้องบรรยายใด และควรเเล้วที่เหรียญพลังแผ่นดินนี้จะเป็นเหรียญที่ทันยุคและเป็นกำลังใจได้อย่างเเท้จริงถ้าทุกคนยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

โค๊ต ฏี หมายถึง ดีหลวง คนดี พระดี ครูดี ศิษย์ดี สารพัดดี

เหรียญรุ่นนี้เข้าพิธีอธิษฐานจิตตามตำรับเดิมของการสร้างหลวงพ่อทวดเเละรูปลักษณ์ด้านหน้าจะเป็นหลวงพ่อทวดครึ่งองค์ด้านหลังจะบรรจุพระคาถาหลวงพ่อทวดเเละคาถายูงทองที่หลวงปู่มั่นใช้เขียนเป็นหลอดยันต์สมัยสงครามเเละพระยันต์จินดามณีหรือพระยันต์สารพัดนึก
พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีนี้
พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ
พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย
พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา
พ่อท่านเเก้ว วัดสะพานไม้เเก่น
พ่อท่านวัดต้นเลียบ วัดที่ฝังรกหลวงพ่อทวด
พ่อท่านวัดดีหลวง วัดที่หลวงพ่อทวดบรรพชาเป็นสามเณร
พ่อท่านวัดสีหยัง วัดที่หลวงพ่อทวดเรียนพระธรรม
พ่อท่านเเสง วัดศิลาลอย ท่านเคยร่วมพิธีปี 2497
พ่อท่านนวล วาจาสิทธิ์ เเห่ง วัดไสหร้า
พ่อท่านเจ้าคุณผัน วัดทรายขาว
พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ
พ่อท่านจ่าง วัดน้ำรอบ
พ่อท่านชม นิ้วเพชร ปากละเเม
พ่อท่านเนื่อง วัดสวนจันทร์
พ่อท่านพระเทพวีราภรณ์

 

3969.พระกริ่งอายุยืน รวยทันใจ หลวงปู่เพ็ง วัดโพธิ์ศรีละทาย 2556 ใต้ฐานบรรจุผง เกศา ตะกรุดเงิน ๑ ดอก สร้างจำนวน ๒,๙๙๙ องค์ ให้บูชา 600 บาท กล่องเดิม

​

 

3970. พระสมเด็จเพชรกลับรุ่นแรก หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ โสภิโต ปี20 วัดสระกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ให้บูชา 999 บาท

​

พระครูโสภิตพิริยคุณ หรือ หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ โสภิโต วัดสระกุศกร ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรง จากพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่สมเด็จลุน หรือ สำเร็จลุน ญาท่านฤทธิ์ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับศิษย์ผู้พี่ นั่นคือ หลวงปู่ญาท่านกัมมัฏฐานแพง และ หลวงปู่ญาท่านตู๋ ดังนั้นจึงถือว่า หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ เป็นทั้งศิษย์ผู้น้อง และ ศิษย์ของหลวงปู่กัมมัฏฐานแพง และ หลวงปู่ญาท่านตู๋ ด้วย หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ โสภิโต ท่านเป็นสหธรรมของ หลวงปู่ญาท่านโทน กันตสีโล , ญาท่านทอง วัดบ้านหัวเรือ , หลวงปู่ญาท่านภู วัดบ้านกองโพน , หลวงปู่บุตร วัดสำราญวราราม ถ้านับตามลำดับชั้น หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของญาท่านสวน วัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จ.อุบลราชธานี หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ เป็นผู้สืบวิชาสายสำเร็จลุน วิชาเอกของท่านคือ “พระโมคคัลลาน์ประสานกาย หรือ หนุมานประสานกระดูก” ว่ากันว่าในสมัยก่อนนั้นที่การแพทย์ยังไม่ทั่วถึง หากใครแขนขาหัก ต้องบอกให้ไปหาญาท่านฤทธิ์ ไม่งั้นก็ต้องตัดขา นอกจากนี้ท่านยังเชี่ยวชาญการรักษาคนป่วย คนบ้า ช่วยไล่ผี ในสมัยอดีต นอกเหนือจากนี้ยังร่ำลือกันว่า หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ นั้นสามารถเดินไม่เปียกฝน ย่นย่อระยะทางได้ หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ ท่านเป็นพระอริยสงฆฺที่เคร่งครัดในสัจจะปฏิญาณ ไม่มองเหลียวหลัง ไม่เคี้ยวกระดูก ไม่กลับทางเดิม ไม่รอดราวตากผ้าไม่ฉันภัตตาหารในงานศพ เมื่อว่างเว้นจากภารกิจ หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ ท่านมักจะปลีกวิเวก เข้าป่าจาริกธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนไม่มีใครสามารถติดตามท่านได้ วัดที่ท่านเคยจำพรรษาอยู่คือ วัดสระกุศกร หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ วัดโพธิ์สระปทุม ตั้งอยู่ที่ บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันศิษย์ที่สืบทอดวิชาของท่านที่ยังดำรงค์ขันธ์อยู่มีดังนี้ครับ หลวงปู่อ่อง วัดสิงหาญ , หลวงปู่คล้าย วัดบ้านกระเดียน และหลวงปู่บู่ วัดสระกุศกร พระครูโสภิตพิริยคุณ (หลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ โสภิโต) ท่านได้มรณภาพ ลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๒๖ มิยุนายน พ.ศ.๒๕๒๔ ท่ามกลางความโศกเศร้าขอศานุศิษย์

 

3971.พระผงรูปเหมือน ทานบารมี ๕๕ รุ่นแรก ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์ จ.พระนครศรีอยุธยา ปี ๒๕๕๕ ให้บูชาแพ๊คคู่ราคาพิเศษ 999 บาท

​

​

พระผงทานบารมี พิเศษ“ พระชุดนี้เน้นหนักทางมหาลาภรวยไว” หลังจากแจกพระผงทานบารมีไปมีคนมาถามหาจำนวนมากบอกว่า เมตตาดี ค้าขายเห็นผลมาก ที่สำคัญหลวงปู่เสงี่ยมแจกอย่างเดียว มาทำบุญก็ได้รับแจก หลวงปู่เสงี่ยมบอกว่า ขึ้นคอได้เลย เสกทุกวัน หลังจากเห็นว่าคนที่ไม่ค่อยมีเงินมาทำบุญแต่อยากได้ของดี หลวงปู่จึงได้ให้จัดสร้างขึ้นมาอีกครั้งเป็นพิเศษ ผงเก่าที่เหลือนำมาทำให้หมด อาทิ ผงปัฐมัง ตรีนิสิงเห พุทธคุณ ที่หลวงปู่เสงี่ยมนั่งลบผง เกษา จีวร ข้าวสารเสกปลุกเสกนาน 3 วาระบดจนละเอียด ผงพระนอนไสยาฐอายุนับร้อยปี ผงหลวงพ่อจันทร์อายุกว่าร้อยปี ผงหลวงพ่อในโบสถ์เก่าอายุหลายร้อยปี ผงพระกรุ ผงว่าน ๑o๘ ผงพระกรุแตกหัก ผงพระวัดเกษไชโยจำนวนมาก หลวงปู่ได้เพิ่มโดยการจารแผ่นตะกรุดเงินด้วยยันต์ นะปัดตลอด จากนั้นก็นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆให้นำจีวรท่านสอดตะกรุดแล้วบรรจุที่พระผง ด้านหลังนั้นให้โรยแร่เศรษฐี ข้าวตอกพระร่วง ผงว่านจินดามณี หลวงปู่ท่านเน้นย้ำ เน้นหนักทางโชคลาภ รวดเร็วทันใจ สมปรารถนาสำเร็จ หลวงปู่เมตตาใครๆก็สามารถบูชาได้ง่าย

 

3972. (ชุด) พระผง รุ่นแรก + แผ่นจารมือ +เหรียญ อายุวัฒนมงคล 77 ออกปี59 เนื้อทองแดงผิวไฟ หมายเลข 1289 หลวงปู่คำแปลง ปุณณชิ วัดป่าพรไพรวัลย์ จ.หนองบัวลำภู ให้บูชา 750 บาท

​

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

3973. ชุดสุดคุ้ม พระอาจารย์เชาวรัตน์ กัมมสุทโธ วัดท่าวังหิน จ.สกลนคร ให้บูชา 999 บาท (ได้รับพระทั้งหมดตามภาพ)

​

 

3974. ชุด หลวงปู่บุญเพ็ง ขันติโก เหรียญ รุ่น เมตตา ขันติโก + ผงอภิมงคล +ภาพถ่าย ให้บูชา 600 บาท

​

 

3975.เหรียญอาร์มหลังหมูทองแดงรุ่นสร้างโรงเรียน หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร ปี 2547 ให้บูชา 550 บาท

​

เหรียญนี้เป็นรุ่นสร้างโรงเรียน เหตุที่เรียกว่า รุ่นปสก. นั้น เพราะ มีปสก.มาแล้วมากมาย สำหรับรุ่นนี้ หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร ถือได้ว่า สร้างรุ่นนี้ เป็นพิธีใหญ่ที่สุดของท่าน ที่ปลุกเสกในวัดท้องไทร
โดยปกติแล้ว หลวงปู่อั๊บ ได้ชื่อว่า เก่งยันต์หมูพญาหมู(หมูทองแดง) ที่สุดในนครปฐมอยู่แล้ว และหลวงปู่อั๊บ ยังเป็นเกจิที่มีความเก่งในด้านเมตตาเช่น การสร้างตะกรุดนางพิม ซึ่งทำให้เกิดปาฏิหาริย์ มากมายหลายครั้ง จนเป็นที่นิยม และยอมรับว่า เป็นเกจิอีกท่านที่มีความเก่งไม่เป็นรองใครในเมืองนครปฐม

 

3976.เหรียญโภคทรัพย์หลังพญาครุฑเพชรกลับ รุ่นเเซยิด 96 ปี 54 หลวงพ่อผาด วัดไร่ อ่างทอง ให้บูชา 650 บาท

​

ทั้งเสกเดียว เสกรวม รุ่นนี้เสกนาน ดังคำหลวงปู่ว่า........
"ไหนๆก็ทำเเล้วเสกนานๆหน่อยก็ดี" ทั้งดังทั้งแรงด้วยพุทธคุณครับ

การปลุกเสก..........
หลังจากที่ได้มีพิธีเจริญพุทธมนต์ หลวงปู่ผาด อธิษฐานจิตปลุกเสก เหรียญโภคทรัพย์-หลังครุฑ รุ่นแรก หลังทำวัตรเย็น นับเป็นครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 หลวงปู่เชิญสหมิกธรรมร่วมอธิฐานจิต "เหรียญโภคทรัพย์-หลังครุฑ รุ่นแรก" ในวันที่ 14 กันยายน 2554 เวลา 13.47 น. มหาฤกษ์

และวันที่ 21 กันยายน 2554 มหาฤกษ์
หลวงปู่ผาดจึงเชิญสหมิกธรรม รวมอธิฐานจิตอีกครั้ง
อันมี
1. หลวงพ่อสนั่น สุนนฺโท วัดกลางราชครู จ.อ่างทอง
2. พระอธิการจั่น จันทโชโต วัดยางมณี
3. พระครูพิศิษฐรัตโนภาส สุชีโว วัดมะนาวหวาน
4. พระครูวิรัชปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาส วัดสำโรง
พร้อมพระสงฆ์สวดชยันโต 9 รูป

 

3977.เหรียญที่มากด้วยประสบการณ์ ของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่ออนันต์ วัดดอนมะเกลือ ปี 2520 ให้บูชา 650 บาท

​

หลวงปู่อนันต์ สุขกาโม พระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน วัดดอนมะเกลือ เกิด พ.ศ. 2444 ที่จังหวัดเพชรบุรี เป็นลูกคนที่ 4 จาก 5 บิดาเป็นลาวโซ่ง แกเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยดี เลี้ยงยาก พออายุ 5 ขอบบิดาตายด้วยโรคระบาด แม่จึงไปฝากใว้กับหลวงพ่อกอน วัดนาปลาเค้าส่วนโยมแม่กลับบ้านเดิมที่สุพรรณ อยู่ได้3 ปีหลวงพ่อกอนก็ลาสิกขาบท ทำให้หลวงปู่อยู่อย่างลำบากถูกเด็กวัดรังแก พออายุได้ 12 ขวบ หลวงพ่อชันเจ้าอาวาสองค์ใหม่เห็นจึงสงสาร จึงได้นำไปอบรมสั่งสอน จนอายุครบบวช เมื่อ พ.ศ. 2465 โดยมีหลวงพ่อแทน วัดศาลาเลื่อน เป็นอุปัชฌาย์ หลวงพ่อชันเป็นคู่สวด ฉายา "ปสาทิโก"
จนปี 2469 จึงเดินทางไปเยี่ยมโยมแม่ที่ บ้านดอนมะเกลือ จ.สุพรรณบุรี ญาติโยมจึงนิมนต์จำพรรษาที่วัดดอนมะเกลือ ซึ่งตอนนั้นเป็นวัดร้าง อยู่ได้2ปีก้อเห็นว่าวัดคับแคบจึงย้ายวัด ระหว่างนั้นก้อเกิดนิมิต ว่าหลวงพ่อตาลเจ้าอาวาสองค์เก่าขอย้ายมาอยู่ด้วย จึงทำศาลและรูปปั้น หลวงพ่อตาลใว้ แกใช้ระยะเวลา 5 ปีวัดใหม่ก็เสร็จ ระหว่างนั้น หลวงพ่อโหน่ง จะสร้างพระนอนองค์ใหญ่ จึงให้พระมานิมนต์ ชาวบ้านเล่าว่า หลวงปู่นันต์บอกกับพระในวัดว่า พรุ่งนี้จะมีพระมานิมนต์ไปช่วยงานใหญ่ พอวันรุ่งขึ้นก้อมีพระ 2 องค์ มาบอกว่าหลวงพ่อโหน่งให้มานิมนต์ไปช่วยสร้างพระนอนองค์ใหญ่ กลางวันก้อทำงานกลางคืนก้อแลกเปลี่ยนความรู้ทางธรรมกับหลวงพ่อโหน่ง พอกลับจากสร้างพระนอนแกก้อคิดสร้างพระเพื่อสืบทอด พระพุทธศาสนา ปี 2470-75 แล้วนำไปเก็บที่หลังคาโบสถ์ ปี 2480 จากนั้นแกก้อออกธุดงค์ จนปี 2499 แกก้อลาสิกขาบท หลวงปู่บอกว่าเป็น กรรมวิบัติ ระหว่างเป็นฆราวาสก้อเดินทางไปศึกษาธรรมะไปเรื่อยโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง ระว่างเป็นฆราวาสได้ช่วยสร้างโบสถ์วัดจันทร์ที่พิษณุโลกจนเสร็จแล้วก้อเดินทางไปถึงเชียงดาว เจออาจารย์ อายันตคุปต์ ก็ศึกษา อยู่ 2ปี ก้อไปศึกษาต่อที่ ถ้ำวังแดง เพชรบูรณ์ กับอาจารย์อะไรก้อไม่รู้ แล้วก็ก้อบวชใหม่อีกที เมื่อ 19 มิ.ย. 2507 ฉายา สุขกาโม
โดยมี พระครูวิชิตพัชราจารย์เป็นอุปัชฌาย์ หลังจากบวชก้อธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขา จนเดินทางไปถึงแหลมงอบ จ.ตราด จึงข้ามไปที่เกาะช้างบำเพ็ญในป่าที่เกาะช้าง และได้สร้างวัดบางเบ้า จนเสร็จ พออายุได้ 73 ปีแกเห็นว่าการธุดงค์บำเพ็ญภาวนาจนน่าพอใจแล้ว จึงเดินทางกลับมาวัดดอนมะเกลือ เมื่อ 2520 อายุ 76 ชาวบ้านต่างดีใจเพราะนึกว่าแกตายไปแล้ว หลังจากกลับมาแกก้อพัฒนาวัด สร้างโบสถ์หลังใหม่ ศาลาใหม่ โรงเรียนใหม่ หลวงพ่ออนันต์ มรณะ เมื่อ 27 พ.ย. 2543 ตอนนี้ร่างกายท่านใส่อยู่ในโรงแก้วที่วัดดอนมะเกลือ

เรื่องเล่าจากประสบการณ์บางส่วนบางส่วน
เรื่องที่ 1.
เถ้าแก่ชื่อดังคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่อนันท์ ได้ยินชื่อ หลายๆคนก็ต้องรู้จัก เถ้าแก่คนนี้ ตอนที่เถ้าแก่คนนี้พาลูกชายและลูกสะใภ้ตลอดจนหลานของเขาที่เพิ่งเกิดมาใหม่ๆมาไหว้หลวงปู่อนันท์โดยส่วนตัวเถ้าแก่คนนี้เขานับถือหลวงปู่อยู่แล้ว เพราะเขามีประสบการณ์มากมายหลายๆด้าน แต่ลูกชายของเถ้าแก่คนนี้กลับเป็นคนไม่เชื่อ เมื่อมาเจอหลวงปู่อนันท์ หลวงปู่อนันท์ได้ทำนๅยทๅยทักดวvลูกชายเถ้าแก่คนนี้ไว้ว่าจะมีเคราะห์ ต้องมๅสะเดๅะเครๅะห์ต่อชะตๅ เถ้าแก่เตรียมของมาทำพิธีพร้อม แต่ลูกชายเถ้าแก่คนนี้เขาไม่เชื่อ เลยไม่ทำ หลวงปู่อนันท์ก็เลยให้พระเหรียญจำไม่ได้ว่าเหรียญรุ่นไหน จะเป็นเหรียญรุ่นแม่ครัวหรือรุ่นไหนจำไม่ได้ชัดเจนตรงนี้ที่หลวงปู่ท่านให้ ให้กับหลานชายเถ้าแก่ไว้ป้องกันตัวเพราะท่านรู้ว่า หลานเถ้าแก่คนนี้ ก็คือลูกของลูกชายคนที่ไม่เชื่อในบารมีหลวงปู่ ว่ามีเคราะห์ เถ้าแก่ไปด้วยก็เลยให้หลานคือเด็กแขวนคอไว้และลูกสะใภ้ก็รับมา เหตุการณ์ต่อมา ลูกชายเถ้าแก่ขับรถถอยหลังหลานเถ้าแก่ที่เป็นลูกของลูกชายก็วิ่งมาหาพ่อตามประสาเด็กที่เห็นรถถอยออกมาก็จะวิ่งไปหาพ่อ เขาถอยรถเหยียบจังๆตรงๆ คนที่เห็นพากันร้องโวยวายกรี๊ดกร๊าดเพราะตกใจ รีบไปดูใต้ท้องรถปรากฏว่า เด็กไม่เป็นอะไรเลยเด็กแขวนเหรียญของหลวงปู่อนันท์ที่ให้ติดตัวไว้
เรื่องที่ 2
ประสบการณ์ผ้ายันต์หรือธงห้ามฝนอันลือลั่นที่อานุภาพเลื่องลือมากในการพัดโบกฝนของหลวงปู่อนันท์ เรื่องนี้ได้รับการเล่าจาก ดาบมี คงทองอนันต์ นายตำรวจท่านหนึ่งซึ่งท่านยินดีเผยแพร่เรื่องราวนี้ให้ลูกศิษย์ทั้งหลายของหลวงปู่ทราบในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่อนันท์ ซึ่งเจอประสพการณ์กับตัวเองมาแล้วหลายครั้งแล้วในพระพุทธคุณของพระเครื่องหลวงปู่อย่าง แกยกตัวอย่างมาหนึ่งเรื่อง เรื่องผ้ายันต์หรือธงห้ามฝน ผ้ายันต์ห้ามฝนหรือธงห้ามฝนใช้เรียกตามความถนัดของบุคคลนั้นแต่ความหมายคือสิ่งเดียวกัน แกเล่าให้ฟังว่า วันนั้นที่บ้านกำลังปรับปรุงหน้าบ้านและพึ่งเทปูนลงเสร็จใหม่ๆ ปูนยังเปียกอยู่ อยู่ดีๆฝนตั้งเค้าทำท่าจะตกและก้อนเมฆก้อนใหญ่รวมตัวอยู่ตรงหน้าบ้านเขาและบริเวณกว้างในเขตติดต่อ พูดง่ายๆเค้าฝนลูกนี้ลงเม็ดแน่นอน เพราะสัญชาตญาณใครๆก็รู้ว่าถ้าฝนจะลงเม็ดอากาศตอนนั้นจะเป็นอย่างไรใครๆคงรู้ดีในเรื่องนี้ ในใจเขาคิดว่า เอายังไงล่ะทีนี้ ฝนลงเม็ดงานเข้าเละแน่นอน งานนี้ พลันคิดนึกถึงว่าบ้านแกมียันต์กันฝนหลวงปู่อนันท์ แกเลยตั้งจิตอธิษฐาน ชักผ้ายันต์หรือธง ตามแต่บุคคลจะเรียก หลวงปู่ขึ้นบนฟ้า ทันทีที่ได้ชักขึ้นเหนือบ้านแก ธงพัดสะบัด เคล็ดลับธงหลวงปู่ถ้าชักขึ้นฟ้าแล้วสะบัดเมื่อไร ถือว่าสำเร็จ แต่สิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น ที่ทำให้แกและครอบครัวศรัทธาหลวงปู่อนันท์มากถึงมากที่สุด คือก้อนเมฆที่รวมกันทำท่าจะลงเม็ดฝนตรงหน้าบ้านแก แยกออกเป็น 2 ฝั่งอย่างเห็นได้ชัดเจน คือพูดง่ายๆตรงบ้านแกท้องฟ้าเปิด ตัวแก แฟนแก แม่ยาย เห็นกับตา ในความอัศจรรย์ครั้งนี้ แกเล่าว่า วันนั้นฝนลงนะแต่ปรอยๆเป็นละอองฝน แต่บ้านรอบข้างตกอย่างฟ้ารั่ว แกเล่าว่าถ้าใครไม่เชื่อเรื่องราวนี้ให้แกไปสาบานที่ไหนก็ได้ เพราะแกเห็นกับตาตัวเองแกมั่นใจมากๆในความศักดิสิทธิ์ของธงผืนนี้และความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่อนันท์มีเมตตา
เรื่องที่ 3.
วันหนึ่ง ครอบครัวเถ้าแก่ลูกศิษย์หลวงปู่คนสนิทหลวงปู่ ได้พากันมาถวายเพลหลวงปู่อนันท์โดยลูกสะใภ้กับเถ้าแก่และหลานเถ้าแก่ได้แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยมาถึงวัดแล้ว แต่ลูกชายเถ้าแก่ยังไม่มา และคิดว่าเดี๋ยวอาจไม่ทันถวายอาหารเพล เวลาใกล้จะเพลแล้ว ลูกสะใภ้ก็เลยจะให้เถ้าแก่ช่วยขับรถพาไปตามลูกชายที เถ้าแก่ก็เลยให้ลูกสะใภ้ไปเอาของที่รถมาให้หน่อยจะได้ถวายเพล ลูกสะใภ้ก็ทำตาม แต่ดันเผลอเอาของออกจากรถหมดแล้ว ล็อกรถเสร็จ แต่ดันลืมกุญแจไว้ในรถ เถ้าแก่ก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงรถมันล็อคสนิทแล้ว เพราะลูกสะใภ้ลืมกุญแจไว้ในรถ หลวงปู่อนันท์ท่านรู้ ท่านเดินลงมาจากกุฏิแล้วท่านก็เดินวนรอบนึงท่านท่องคาถาอะไรไม่ทราบและรดน้ำมนต์ไปด้วย เดินวนรอบนึงแล้วบอกให้เถ้าแก่เปิดประตูรถดูซิ เถ้าแก่ก็ลองเปิด แปลกใจมากเปิดประตูรถออกมาได้เฉยเลยทั้งๆที่ว่าก่อนนั้นกุญแจอยู่ในรถรถมันล็อคเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนักแก่สายตาเถ้าแก่และลูกสะใภ้ยิ่งเพิ่มความนับถือหลวงปู่อนันท์เข้าไปอีก
เรื่องที่ 4.
หลวงปู่อนันท์ได้ทำนายทายทักดวงชะตาลูกชายเถ้าแก่คนนี้ไว้ว่าชะตาขาด วันเวลาต่อ....ลูกชายของเถ้าแก่ที่ไม่เชื่อในบารมีหลวงปู่อนันท์ที่ทำนายทายทักไว้หลังจากนั้นเพียว 1 เดือน ลูกชายของเถ้าแก่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชี่วิตตามที่หลวงปู่ท่าน ทำนาย ทายทัก ไว้แท้ ๆ

 

3978.เหรียญเสมาฉลุ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพ หลังยันต์สี่ รุ่นรับเสด็จยกช่อฟ้ามหามงคล เนื้อทองแดง ปี 2554 ให้บูชา 888 บาท

​

ทางวัดหนังได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ในวันที่ 18 เม.ย.2554… ในโอกาสมงคลนี้คณะสงฆ์วัดหนัง โดย “พระวิเชียรโมลี” เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน จึงจัดสร้างวัตถุมงคลและกำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก วันที่ บทความพระเครื่อง 5 เม.ย.2554 ณ พระอุโบสถวัดหนัง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ โดยจัดสร้างอย่างยิ่งใหญ่ตามต้นตำรับยุคหลวงปู่เอี่ยม ซึ่งบัดนี้ท่านมรณภาพไปแล้วเป็นปีที่ 84
รายนามเกจินั่งพุทธาภิเษก "รุ่นรับเสด็จ ยกช่อฟ้ามหามงคล" สุดยอดมหาวัตถุมงคลต้นตำรับวัดหนัง เหรียญหลวงปู่เอี่ยม สุดยอดปิดตายันต์ยุ่ง พุทธาภิเษกใหญ่ วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554
1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง ปธ.9 ) วัดปากน้ำ แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
2. พระธรรมกิตติวงศ์ (ปธ.9) วัดราชโอรสสาราม ราชวรวิหาร แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
3. หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
4. หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา
5. หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ อ.บางบ่อ สมุทรปราการ
6. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
7.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
8.หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา
9.หลวงพ่อมาลัย วัดบางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร
10.หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
11.หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
12.หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี
13. หลวงพ่อสาย วัดเจริญสุขาราม (บางไผ่เตี้ย) ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
14.พระเทพมงคลรังษี วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
15.พระอาจารย์สุนทร ฐานวโร วัดสุทธาวาส ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี (ศิษย์สายหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง) และยังมีรายนามเกจิอีกหลายท่าน

วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
หลวงพ่อพระวิเชียรโมลี เจ้าอาวาสวัดหนัง เปิดเผยว่า เนื่องจากพระเดชพระคุณพระธรรมศีลาจาร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนัง ได้บูรณปฏิสังขรณ์ พระอารามจนครบถ้วนบริบูรณ์ และได้บูรณะพระอุโบสถ พระวิหาร พระปรางค์ ได้ดำริจะทำพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถ นอกจากนี้ ยังปรารภที่จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่สืบ ทอดกันมาจากอดีตเจ้าอาวาส ตั้งแต่สมัยหลวงปู่เอี่ยมเป็นลำดับมาไว้ที่พระปรางค์ เพื่อเป็นที่สักการะของพุทธบริษัททั้งหลาย พร้อมกันนี้ วัดหนังได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ในวันที่ 18 เมษายน 2554
ในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ วัดหนังได้จัดสร้างวัตถุมงคลและประกอบพิธีมหามงคลพุทธาภิเษก วันที่ 5 เมษา ยน 2554 ณ พระอุโบสถวัดหนัง เพื่อให้ญาติโยมสาธุชนได้เช่าบูชาไว้สักการะ ซึ่งการจัดทำวัตถุมงคลในครั้งนี้เป็นการสร้างที่ยิ่งใหญ่ตามต้นตำรับของวัดที่ทำไว้ในยุคหลวงปู่เอี่ยมยัง มีชีวิตอยู่ ซึ่งบัดนี้ท่านมรณภาพไปแล้วเป็นปีที่ 84 วัตถุมงคลของท่านเป็นสิ่งที่ล้ำค่าหาได้ยากยิ่ง

 

3979.พระผงรูปเหมือนสมเด็จโต รุ่นบาตรโต รับเงินล้าน เนื้อผงยาวาสนาจินดามณีอันศักดิ์สิทธิ์ ปี 2556 กล่องเดิม ปิดรายการครับ

​

พระรุ่นนี้จัดสร้างจากผงยาวาสนาจินดามณีอันศักดิ์สิทธิ์และมวลสารจากทั่วประเทศ โรยผงตะไบทองชนวนนำฤกษ์
ปลุกเสก 4 วาระโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาทิเช่น
หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
หลวงพ่อเที่ยง วัดระฆังโฆสิตาราม
หลวงพ่อยวง วัดหน้าต่างใน
หลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี
วาระสุดท้ายประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ที่วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม

 

3980.พระกรุวัดใหม่ปากบางพิมพ์ฐานสามชั้น ให้บูชา 1650 บาท

​

วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของ คุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูป ธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระภิกษุรูปแรกนั้นมีชื่อว่า ทรัพย์ ส่วนอีกรูปไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้ และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง
หลวงปู่ทรัพย์ ท่านเป็นชาวชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ท่านเป็นพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ในตำบลท่าตอ และเริ่มสร้างวัดจนสำเร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2394 โดยประชาชนในตำบลท่าตอได้ช่วยกันสร้างกุฏิ หอสวดมนต์ จนเจริญรุ่งเรืองเป็นวัดขึ้นมา หลวงปู่ทรัพย์ท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาธรรมสูง เก่งหนังสือขอม ท่านได้เขียนหนังสือขอมไว้ในสมุดใบลานประมาณสิบกระสอบ หลวงปู่ทรัพย์ท่านจะสอนหนังสือพระเณรภายในวัดทุกวัน และท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก พระเณรในวัดต่างก็ยำเกรงท่านมาก และยังเป็นที่รักเคารพของชาวบ้านในแถบนั้น หลวงปู่ทรัพย์ได้สร้าง พระเครื่องเนื้อผงกรุวัดใหม่ปากบาง ไว้จำนวนมาก มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น
พิมพ์พระประจำวัน
พระนางพญา(คล้ายกับพระพิมพ์ปิลันท์หยดแป้ง)
พระพิมพ์เล็บมือ 3 ชั้น
พระเล็บมือ 2 ชั้น
พระเล็บมือชั้นเดียว
พิมพ์ยืนประทานพร เป็นต้น
และพระทั้งหมด ท่านได้นำบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ย่อไม้สิบสอง รอบๆบริเวณพระอุโบสถ เพื่อสืบทอดพระศาสนา
หลังจากที่หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว ในราวปีพ.ศ. 2485-95 ทางวัดคิดจะสร้างหอสวดมนต์และหอระฆัง แต่ก็ขัดสนเรื่องทุนทรัพย์ จะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบได้ มีนกเอี้ยงที่อาศัยอยู่ที่คอระฆัง คุ้ยเขี่ยเอาพระร่วงหล่นลงมา ทำให้มีคนรู้ว่า มีพระบรรจุอยู่ที่คอระฆัง และเริ่มมีคนเข้ามาขโมยเอาพระ โดยถูกขโมยเจาะเจดีย์ พระที่ออกจากกรุในครั้งนี้ เรียกกันว่าพระ “กรุเก่า” ซึ่งผิวพระจะไม่ค่อยมีขี้กรุจับ เนื้อจะหนึกนุ่มประเภทเนื้อจัด ท่านเจ้าอาวาสในสมัยนั้น จึงได้ให้ทำการเปิดกรุ โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำการเปิดกรุพระ นำพระบางส่วนออกมาให้แก่ประชาชนได้เช่าบูชา เพื่อนำรายได้มาสร้างหอสวดมนต์และหอระฆังดังกล่าว และการสร้างหอระฆังและหอสวดมนต์ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
จากนั้นอีกหลายปีต่อมา ทางวัดได้เริ่มสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ จึงทำการเปิดกรุครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการ นำพระออกมาจากกรุทั้งหมด นับได้ประมาณ 2,000 องค์ พระที่เปิดกรุครั้งนี้เรียกกันว่าพระ “กรุใหม่” พระส่วนมากจะมีขี้กรุจับที่ผิวเป็นคราบสีเหลืองๆ มีเม็ดผุดขึ้นตามผิวพระ บางองค์ก็จะเห็นเม็ดกรวดทรายปะปนอยู่ในเนื้อพระ ทางวัดนำออกมาให้แก่ประชาชนได้เช่าบูชา เพื่อนำรายได้มาเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างพระอุโบสถ และพระอุโบสถหลังใหม่นี้ก็สร้างสำเร็จด้วยดี ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้
หลวงปู่ทรัพย์ เจ้าอาวาสวัดใหม่ปากบาง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นศิษย์ในเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี แห่งวัดระฆัง และยังคุ้นเคยกับ หลวงปู่ภู และสมเด็จพระพุทธบาทปิลันท์ ชาวบ้านแถววัดปากบางรุ่นเก่า เล่าสืบกันมาว่า
"จู่ ๆ ก็มีพระเถระผู้ใหญ่ รูปร่างมีสง่ากับสามเณร โดยสารมาทางเรือ มาจำวัดอยู่กับหลวงพ่อทรัพย์(เจ้าอาวาส) หลวงพ่อทรัพย์มีความยำเกรงในพระเถระองค์นี้มาก และเรียกติดปากว่า "เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี"
และยังเชื่อกันว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) ได้เมตตาแบ่งผงพุทธคุณวิเศษของท่านให้แก่หลวงปู่ทรัพย์ด้วย ในการสร้างพระผงวัดใหม่ปากบาง หลวงปู่ทรัพย์จึงนำผงพุทธคุณวิเศษที่ได้รับ นำมาผสมกับผงพุทธคุณที่หลวงปู่ทรัพย์ได้ลบไว้เอง แล้วกดพิมพ์ออกมาเป็นองค์พระ ซึ่งเป็นแม่พิมพ์ที่ชาวบ้านแกะขึ้นกันเอง รูปทรงจึงไม่งดงามนัก
พระเครื่องของหลวงปู่ทรัพย์ กรุวัดใหม่ปากบางนี้ เป็นพระเนื้อผง ส่วนใหญ่จะปรากฏคราบกรุ ถ้าผิวพระยังไม่เปิดจะมีคราบกรุ แบบคราบไขและฟองเต้าฮู้ แต่ถ้าผิวพระเปิดแล้ว จะเห็นเนื้อใน เนื้อหาจะหยาบ ฟ่ามๆ มีกรวดทรายมากบ้างน้อยบ้าง มีเม็ดแร่ เม็ดมวลสารประปราย

 

3981. ล็อกเก็ต รุ่น บูชาครู หลังอุดมวลสาร + ล็อกเก็ต รุ่น เสริมบารมี สวยเดิมๆ พระอาจารย์เชาวรัตน์ กัมมสุทโธ วัดท่าวังหิน จ.สกลนคร ให้บูชา 750 บาท

​

 

3982.สร้างจากผงลพ.แก้ว วัดเครือวัลย์แท้ๆ ฝังตะกรุดเงิน พระปิดตาแลกซุงรุ่นแรก ลป.บุญ วัดทุ่งเหียง ตะกรุดเงิน ซองเดิม ให้บูชา 750 บาท องค์นี้บูชาจากวัด ให้หลวงพ่อเมตตาเสกเพิ่มให้ด้วยครับ

​

หลวงปู่บุญท่าน นำผงพระปิดตาหลวงปู่แก้วที่ท่านเก็บสะสมไว้มาก นำมาสร้าง พระปิดตาพิมพ์แลกซุงนี้ พร้อมทั้ง เอาสีผึ้ง 3 นามของท่าน (เป็นสีผึ้ง ผสม ระหว่างสีผึ้ง ของ หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ สีผึ้ง หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง และสีผึ้ง หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม อุปัชฌาย์ ของท่าน) พระปิดตาแลกซุงนี้ ท่านสร้างจากตำราโบราณหลวงพ่อแก้ว ซึ่งเรียกว่ารุ่นแลกซุง หรือ รุ่นลากซุง หลวงพ่อแก้วท่านเป็นนักก่อสร้าง ถ้าใครมาช่วยชักลากซุง จากป่ามาถึงวัด ท่านก็ให้พระ 1 องค์ ใครเอาซุงมาถวายท่าน 1 ท่อน ท่านก็จะให้พระ 1 องค์ เพราะฉะนั้น จะเรียกรุ่นลากซุงก็ถูก จะเรียก รุ่นแลกซุงก็ไม่ผิด วัสดุที่ใช้ ท่านได้จากบริเวณโป่งช้าJ หรือโป่งสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ เช่น ดอกบุนนาค ดอกนมแมว ท่านจะรอให้แมลงตอมดอกไม้เสียก่อน ดอกไม้ที่ไม่มีแมลงตอม.. ท่านว่า ไม่หอม...ไม่เอา ส่วนผสมต่อมา เรียกว่าไม้ไก่กุก ไม้ที่ไก่เจาะจงไปใช้จงอยปากเคาะ..คนโบราณถือว่า เป็นไม้เสน่ห์มหานิยม ชายได้ก็ใช้ทัดหู หญิงได้ก็ห้อยไว้ที่อก เชื่อกันว่าจะเสริมความสวยความงามขึ้นอีกสิบเท่า
ผงที่ลงเลขยันต์ ที่ลบเก็บไว้ เกสรดอกบัวที่นาคนำเข้าถวายพระอุปัชฌาย์ ตอนเข้าขออุปสมบท ไคลเสมา หรือตะไคร่น้ำเสมาหน้าโบสถ์ ฯลฯ ส่วนผสมสุดท้าย คือน้ำ หลวงพ่อแก้วใช้ขันรองน้ำที่หยดจากผนังถ้ำ ท่านเรียกว่าหยดน้ำตา หยาดน้ำตก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความอาลัย ในยามที่จะพลัดพรากจากกัน หลวงปู่บุญบอกว่า มีอาถรรพ์มากตั้งแต่ตอนทำตอนผสมผง ทั้งฝูงแมลงบินมา เต็มกุฏี หมูที่อยู่ หลังวัดร้องระงมกันทั้งคอก ตอนเสกก็มีนิมิตนี้ เจ้าของผง มานั่งคุมพิธีเสกเอง หลวงปู่จึงให้ทำบุญโดยยึดถือ ปฎิทาของหลวงปู่แก้วที่มีมาแต่เดิม ถ้า จะให้นำพระปิดตานี้ไปแลกซุงสมัยนี้คงจะเป็นไปไม่ได้ และซุงก็แพงมากหาก็ยาก ตอนนี้หลวงพ่อเลี้ยงเด็กชาวเขา หลายร้อยชีวิต หลวงพ่อจึงขอรับบริจาค ข้าวสารมาใช้เลี้ยงเด็ก ใครบริจาคข้าวของ ขนม ก็มารับพระปิดตาไป 1 องค์ หลวงพ่อเจริญพรว่า ถ้าข้าวสารก็ขอซัก 10 กิโล ให้พระปิดตาแลกซุง 1องค์ ขนม ผลไม้ ก็ขอ 1 กล่อง ให้พระปิดตา 1 องค์

 

3983.สุดยอดของดีของหลวงพ่อ กัณหาชาลี เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ปี๔๗ ให้บูชา 1850 บาท

​

หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน ยังบอกว่า "พี่ทรงนี่สวดปาฏิโมกข์เก่งมากหาตัวจับยาก ฟังเพลินอักขระไม่มีวิบัติ"

หลวงพ่อทรง ฉนทโสภี (พระครูสุภัทรธรรมโสภณ) วัดศาลาดิน ต.ม่วงเตี้ยอ.วิเศษชัยขาญ จ.อ่างทอง ท่านเป็นพระเกจิอีกท่านหนึ่งที่ดังเงียบๆมานานในพื้นที่ ลูกศิษย์ญาติโยมไปนมัสการ หลวงพ่อจะต้อนรับอย่างดีเป็นรายๆ ไปจนจบทุกคน

หลวงพ่อทรงท่านไม่ค่อยจะสร้างพระพร่ำเพรือ แม้ขณะที่ท่านกำลังเป็นที่รู้จักของเหล่านิยมพระเครื่องทั่วประเทศ แต่การออกวัตถุมงคลแต่ละชนิดแต่ละอย่างต้องเป็นไปตามตำราอย่างถูกต้องที่สุดและแต่ละรุ่นแต่ละแบบสร้างไว้ไม่มาก ข้อห้ามในการใช้พระของหลวงพ่อทรงทุกรุ่นที่ลูกศิษย์เคยถาม ลพ.ทรงท่านยิ้มตอบแบบอารมณ์ดีว่า มี 2 ข้อ คือ ห้ามเอาไปทิ้ง และห้ามทำหาย นั่นแหละ ส่วนคาถากำกับไม่มีท่านเคยบอกว่าเรื่องมาก ทำมาให้ใช้ก็ใช้ไปเถอะของฉันทำมาดีนะ

ส่วนเรื่องจะช่วยด้านค้าขายดี ลพ.ทรงท่านเคยบอกว่าได้พระเครื่องของท่านไปแล้วต้องขยันทำมาหากินด้วยนะพระจึงจะช่วยได้ พระฉันทำไว้ให้ช่วยผ่อนแรงเท่านั้น จะช่วยหมดไม่ได้จะต้องช่วยตัวเองก่อน

“ ขึ้นชื่อว่าศิษย์ ข้ารักเหมือนกันหมด”

“ข้าสวดมนต์ให้คนมีพระข้าทุกวัน มันจะไม่ดีขึ้น ก็ให้มันรู้ไปซิว๊ะ”

“ของของข้า ข้าไม่ทำให้เสียชื่อ ครูบาอาจารย์หรอก”

ตอนที่เช่ากัญหาชาลีมาใหม่ ๆ ติดตัวไป

ด้วย เพื่อนที่เป็นร่างทรงทักว่า วันนี้มีเด็กวิ่งล้อมรอบเลยนะ มีอะไรมาใหม่หรือ ก็เลยบอกรู้หรือ เขาบอกรู้สิ เห็นวิ่งกันล้อมหน้าล้อมหลัง น่ารักนะ ก็เลยบอกเขาไปว่า เช่ากัญหาชาลีหลวงพ่อทรงมา ให้เขาดู เขาก็บอกมีพลังมากนะ เขาช่วยเหลือ มีพลัง น่ารักด้วย หลวงพ่อองค์ที่สร้างนี้ท่านเก่งมากด้วยนะ เขาบอก ก็เลยเล่าประวัติหลวงพ่อทรง ให้เขาฟัง และได้มีโอกาสพาเขาไปกราบหลวงพ่อทรงที่วัดตอนที่หลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่