หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ /พระสารีบุตรนิพพาน

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    นางสารีพราหมณี l มารดาพระสารีบุตร "วันปรินิพพานพระสารีบุตร" #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    May 23, 2025

    *นางสารี พราหมณี* มารดาของพระสารีบุตร ผู้มีบุตรถึงเจ็ดคนซึ่งต่อมาได้ออกบวชทั้งหมดพร้อมทั้งหลาน โดยได้กล่าวถึง *ลำดับการออกบวชของบุตรแต่ละคน* และเหตุการณ์ที่ *พระสารีบุตรกลับไปเยี่ยมมารดา* และแสดงธรรมจนนางบรรลุโสดาปัตติผล นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง *การปรินิพพานของพระสารีบุตร* ณ บ้านเกิดของท่าน และการสร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุตามคำสั่งของพระพุทธเจ้า.
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    ผันทชาดก - การผูกเวรของหมีและไม้ตะคร้อ #ฟังธรรมก่อนนอน #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 4, 2025

    การผูกเวร หมายถึง *การถือโกรธ หรือการสร้างความเป็นศัตรู* ระหว่างกัน. เรื่องราวในผันทชาดกที่นำมาแสดงนั้น เป็นการกล่าวถึง *การผูกเวรของหมีและไม้ตะค้อ**.การผูกเวรเริ่มต้นขึ้นเมื่อหมีตัวหนึ่งนอนอยู่ที่โคนต้นตะค้อ แล้วกิ่งแห้งของต้นไม้ได้ตกลงมาถูกคอของหมีโดยบังเอิญ. หมีตกใจและเข้าใจผิดคิดว่าเทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้นั้นไม่ต้องการให้ตนนอนอยู่ที่นั่น. หมีจึงเกิดความโกรธและ **ผูกโกรธในที่ที่ไม่ใช่ฐานะ* และประกาศว่าจะให้คนมาขุดโค่นต้นตะค้อทั้งรากทั้งต้นเพื่อแก้แค้น. เมื่อรุกขเทวดา (เทวดาผู้สิงอยู่ ณ ต้นตะค้อ) ทราบถึงความอาฆาตของหมี และเห็นว่าหมีกำลังจะทำลายวิมานของตน (คือต้นไม้) เทวดาก็คิดว่าต้อง *ล้างผลาญหมีตัวนี้ด้วยอุบายอย่างหนึ่งให้ได้**. นี่คือการที่เทวดาผูกเวรตอบ. รุกขเทวดาจึงแปลงกายไปหลอกช่างไม้ที่กำลังหาไม้ทำรถ โดยแนะนำให้ช่างไม้ใช้เล่ห์กลลวงหมีมา เพื่อลอกเอาหนังที่คอของหมีประมาณ 4 นิ้วไปหุ้มกงล้อรถ ซึ่งจะทำให้กงล้อแข็งแรง. ด้วยอุบายนี้เอง รุกขเทวดาจึง **จองเวรสำเร็จ* โดยเป็นเหตุให้ช่างไม้สามารถฆ่าหมีได้. พระศาสดาทรงสรุปถึงผลของการผูกเวรในเรื่องนี้ว่า *ไม้ตะค้อฆ่าหมี และหมีก็ฆ่าไม้ตะค้อ ต่างก็ฆ่ากันและกันด้วยการวิวาทกัน* ด้วยประการฉะนี้. และทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงเพื่อเตือนภิกษุทั้งหลายให้ *อย่าวิวาทกัน อย่าเป็นทางหนีและไม้ตะค้อ* (หมายถึงการเป็นศัตรูที่ทำลายล้างกัน). ดังนั้น การผูกเวรสามารถเกิดขึ้นได้จากความเข้าใจผิดและอารมณ์โกรธในเรื่องที่ไม่สมควร และนำไปสู่การแก้แค้นและการทำลายล้างซึ่งกันและกันในที่สุด.
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    กปิลมัจฉา l "ปลาชื่อ กปิละ" ปลาปากเหม็นเพราะด่าผู้มีศีล #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 1, 2025

    เรื่องราวของ *พระกปิละ* ซึ่งเป็นภิกษุในสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ โดยท่านได้ศึกษาพระไตรปิฎกจนเชี่ยวชาญแต่กลับถูก *ตัณหา* เข้าครอบงำ ทำให้พูดจาดูถูกภิกษุผู้มีศีล และยังปฏิเสธการสวดพระปาติโมกข์ ส่งผลให้เกิดใน *อเวจีมหานรก* หลังจากนั้นได้มาเกิดเป็น *ปลาสีทองแต่ปากเหม็น* ซึ่งเป็นการแสดงผลของกรรมที่ได้กระทำไว้ ทั้งยังกล่าวถึงผลของ *ตัณหา* ที่นำพาไปสู่ภพภูมิต่างๆ และการที่บุคคลจะหลุดพ้นได้ด้วยการละ *ตัณหา* นั้นเอง.
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    จันทกินนรชาดก l ชาดก "ว่าด้วยความจงรักภักดี" #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #ชาดกสอนใจ #นิทานธรรมะ

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jun 26, 2025

    ในชาดกเรื่อง *จันทกินรี* นี้ *พระศาสดา* ทรงเล่าเรื่องเพื่อแสดง *ความจงรักภักดีที่ไม่เปลี่ยนแปลง* ของพระมารดาพระราหุล โดยย้อนไปในอดีตกาลสมัย *พระเจ้าพรหมทัต* พระโพธิสัตว์ได้ถือกำเนิดเป็น *จันทกินนร* อาศัยอยู่กับ *จันทา* ผู้เป็นภรรยาบนเขา *จันทบรรพต* ชาดกกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ *พระราชา* ได้ทรงกระทำบาปด้วยการยิง *จันทกินนร* เพราะลุ่มหลงใน *จันทา* อย่างไรก็ตาม *ความรักที่มั่นคง* ของจันทาที่มีต่อสามี ทำให้เธอสามารถขอให้ *ท้าวสักกะ* ช่วยชีวิตสามีให้ฟื้นคืนได้สำเร็จ โดยเหตุการณ์นี้ยังถูกตีความว่าเป็นการเชื่อมโยงบทบาทในอดีตกับตัวละครในปัจจุบันอีกด้วย. พระพุทธเจ้าเมื่อประทับอยู่ที่กรุงกบิลพัสดุ์ ทรงรำลึกถึงพระนางยโสธรา (มารดาของพระราหุล) ผู้มีความจงรักภักดีมั่นคงไม่เสื่อมคลายแม้พระพุทธเจ้าจะออกผนวช ทรงเล่าเรื่องอดีตชาติ คือ "จันทกินนรชาดก" เพื่อแสดงถึงความรักมั่นคงในชาติปางก่อน เนื้อเรื่องในอดีตชาติ: พระโพธิสัตว์เกิดเป็น “จันทกินนร” อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์กับภรรยาชื่อ “จันทา” อย่างสงบสุข พระราชาแห่งเมืองพาราณสีทรงออกผนวช เดินป่าลึกและได้เห็นจันทกินนรกับจันทารำฟ้อนร้องเพลงกันอย่างสุขสันต์ พระราชาเกิดความหลงรักจันทา จึงยิงจันทกินนร หวังจะได้ตัวจันทาไป จันทกินนรบาดเจ็บสาหัส ร่ำไห้กล่าวคำอาลัยรักต่อภรรยา 4 คาถา ก่อนจะหมดสติ จันทาร่ำไห้เสียใจ กล่าวคำสาปแช่งพระราชา 5 คาถา และไม่ยอมเป็นมเหสีของพระราชา พระราชาถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด จึงตัดใจจากไป นางจันทานำร่างสามีกลับไปกอดบนยอดเขา ร่ำไห้ถึงความหลัง 12 คาถา ด้วยแรงอธิษฐานและความรักมั่นคงนั้น ทำให้ “ท้าวสักกะ” (พระอินทร์) ปรากฏกายมาโปรด รักษาจันทกินนรให้หายดี ทั้งสองได้อยู่ร่วมกันต่อในป่าอย่างเป็นสุข พระพุทธเจ้าทรงสรุปว่า: นางจันทาคือพระนางยโสธราในชาตินี้ ผู้ซื่อสัตย์รักมั่นในพระองค์แม้ข้ามชาติ
    ใจความสำคัญ: “แม้ชาติเป็นสัตว์ ก็ยังรักมั่นในคู่ครอง ไม่เอาใจออกห่าง ไม่แยแสผู้ใดอื่น” เป็นตัวอย่างของ ความจงรักภักดี ความรักที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ซึ่งเป็นธรรมะสอนใจทั้งฆราวาสและนักบวช
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    สิริคุตต์ l กัลยาณมิตรของครหทินน์ #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Apr 30, 2025

    เรื่องราวของ สิริคุตต์ ผู้เป็นอุบาสกที่นับถือพระรัตนตรัย และ คหทินน์ เพื่อนผู้เป็นนิครนถ์ซึ่งพยายามชักชวนสิริคุตต์ให้หันมานับถือพวกตน คหทินน์ อ้างว่าพระศาสดาของตนนับถือรู้อดีต อนาคต และปัจจุบันทั้งหมด แต่สิริคุตต์ได้ทดสอบโดยการวางแผนหลุมพรางซึ่งพวกนิครนถ์ตกลงไปหมด พิสูจน์ว่าพวกเขามิได้รู้ทุกสิ่งตามที่อ้าง เมื่อเรื่องถึงพระราชา คหทินถูกปรับไหม ต่อมาคหทินพยายามแก้แค้นโดยวางกับดักเช่นเดียวกันเพื่อพระพุทธเจ้าและภิกษุ แต่พระพุทธเจ้าทรงเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าและแสดงปาฏิหาริย์เหยียบดอกบัวข้ามหลุมไป ทำให้คหทินได้เห็นอานุภาพของพระพุทธเจ้าและเกิดศรัทธา ในที่สุด สิริคุตต์ และ คหทิน ได้บรรลุธรรมหลังจากฟังพระพุทธเจ้าแสดงธรรม.
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    โกสิยเศรษฐี l "เศรษฐีขนมเบื้อง" #พระมหาโมคคัลลานะ #พระอรหันต์ #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Apr 29, 2025

    เรื่องราวของ *โกสิย เศรษฐี ผู้มีทรัพย์สินมากมาย แต่กลับเป็นคน **ตระหนี่ถี่เหนียวอย่างยิ่ง* ซึ่งความตระหนี่ของเขานั้นปรากฏชัดเจนแม้แต่กับตัวเองและคนใกล้ชิด เรื่องราวได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เศรษฐีอยากกิน *ขนมเบื้อง* แต่กลับไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวเสียเงิน จนกระทั่ง *พระพุทธเจ้าทรงทราบถึงอุปนิสัย* ของเศรษฐีและภรรยา จึงทรงส่ง *พระมหาโมคคัลลานะ* ไปโปรด และด้วยฤทธิ์ของพระเถระ รวมถึงอานิสงส์จากการถวายขนมและปัจจัยต่างๆ แด่พระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ ทำให้ *เศรษฐีและภรรยาบรรลุโสดาบัน* และได้ *บริจาคทรัพย์สมบัติทั้งหมด* ในพระพุทธศาสนา
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    08-อังคุลิมาลสูตร พระองค์คุลิมาลเถระ | #เปิดพระไตรปิฎก

    พระมหาสมเกียรติ ญาณสุทฺโธ
    Apr 21, 2025

    08-อังคุลิมาลสูตร พระองค์คุลิมาลเถระ |
    #เปิดพระไตรปิฎก
    อหิงสกะ เป็นบุตรของ ปุโรหิต คัคคะ และ นางมันตานี ได้รับการสั่งสอนที่ผิดจากอาจารย์ทำให้ต้องกลายเป็นโจรฆ่าคน แล้วตัดนิ้วมาคลองเป็นมาลัย จึงได้ชื่อว่า องคุลิมาล จนวันหนึ่งได้พบพระพุทธเจ้า จึงได้กลับใจบวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา และบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
    ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://84000.org/ พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    รวมประวัติ 3 พระอรหันต์ที่คนเชื่อว่าหนุนนำด้านโชคลาภ

    เผือก สีขาว
    Jul 1, 2025
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    นางขุชชุตตรา l ฆราวาสสอนธรรม l เอตทัคคะในฝ่ายผู้แสดงธรรม #พระพุทธเจ้า #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Dec 6, 2024

    นางขุชชุตตรา เป็นลูกสาวของหญิงแม่นมในเรือนโฆสกเศรษฐี ในกรุงโกสัมพี เป็น หญิงพิการหลังค่อม ต่อมาเมื่อโฆสกเศรษฐีได้ยกนางสามาวดีผู้เป็นหญิงกำพร้าให้อยู่ในฐานะเป็นธิดาของตนแล้ว ได้มอบหญิง ๕๐๐ คน ให้เป็นบริวารของนางอีกด้วย และนางขุชชุตตราก็ได้เป็นบริวารของนางด้วยเช่นกันเมื่อนางสามาวดีได้รับการอภิเษกเป็นมเหสีของพระเจ้าอุเทนแห่งเมืองโกสัมพี หญิงบริวารทั้งหมดก็ติดตามเข้าไปรับใช้นางในพระราชนิเวศน์ด้วย และพระเจ้าอุเทนได้พระราชทานทรัพย์ ๘ กหาปณะ แก่นางขุชชุตตรา เพื่อจัดซื้อดอกไม้ให้แก่นางสามาวดีทุกวัน โฆสกเศรษฐีสร้างวัดถวาย ในกรุงโกสัมพีนั้นมีเศรษฐี ๓ คน คือ โฆสกเศรษฐี กุกกุฎเศรษฐี และ ปาวาริกเศรษฐี ทั้ง ๓ ท่านนี้เป็นสหายกันต่างก็มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้ฟังพระธรรมเทศนาจนได้บรรลุเป็นพระโสดาบันด้วยกัน และได้สร้างวัดขึ้นท่านละหนึ่งวัด โดยของ โฆสกเศรษฐีชื่อว่าโฆสิตาราม ของกุกกุฏเศรษฐี ชื่อว่า กุกกฏาราม และของปาวาริกเศรษฐีชื่อว่า ปาวาริการามเศรษฐีทั้ง ๓ ท่านนี้มีคนรับใช้ชื่อนายสุมนะเป็นผู้จัดการตกแต่งสวนดอกไม้ เนื่องจากเขามีความฉลาดความสามารถในด้านนี้ จึงได้ชื่อว่า “สุมนมาลาการ” แม้นางขุชชุตตราก็มาซื้อดอกไม้จากนายสุมนะนี้ทุกวัน นางขุชชุตตราบรรลุโสดาบัน ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จมายังเมืองโกสัมพี โดยมีพระอานนท์เถระ เป็นปัจฉา สมณะตามเสด็จมาด้วย พระพุทธองค์ประทับ ณ อารามของเศรษฐีทั้ง ๓ ท่านและเสด็จเข้าไปเสวยภัตตาหารที่บ้านของเศรษฐีทั้ง ๓ ท่านนั้นโดยผลัดเปลี่ยนไปตามวาระ ตามที่ท่านเศรษฐีได้กราบทูลอาราธนา วันหนึ่ง นายสุมนะขอโอกาสแก่ท่านเศรษฐีเพื่อกราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาเสด็จไปเสวยภัตตาหารที่บ้านของตน เมื่อเศรษฐีอนุญาตให้สมประสงค์แล้ว จึงจัดการตกแต่งเสนาสนะและภัตตาหาร ขณะที่เขากำลังจัดเตรียมการอยู่นั้น นางขุชชุตตราก็มาถึง นายสุมนะ กล่าวกับเธอว่า “วันนี้ขอให้รออยู่ก่อน เพราะตนได้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดามาเสวย ภัตตาหารที่บ้าน และขอให้นางช่วยเหลือในการจัดภัตตาหารด้วย เมื่อเสร็จแล้วจึงค่อยรับดอกไม้ไป” ซึ่งนางขุชชุตตรา ก็ตอบรับด้วยความยินดีเมื่อเสร็จภัตกิจแล้ว พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนาอนุโมทนานางขุชชุตตราก็ได้มีโอกาสฟังธรรมเทศนานี้ด้วย นางส่งกระแสจิตไปตามพระธรรมเทศนา เมื่อจบลงก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล ตามปกติในวันอื่น ๆ ที่แล้วมา นางขุชชุตตรา จะซื้อดอกไม้เพียง ๔ กหาปณะ และเก็บเอาไว้เอง ๔ กหาปณะ แต่วันนี้นางซื้อดอกไม้ทั้ง ๘ กหาปณะ นางสามาวดีเห็นว่าวันนี้ได้ดอกไม้มากกว่าทุก ๆ วัน จึงถามนางขุชชุตตรา ขึ้นว่า “ทำไมวันนี้จึงได้ดอกไม้มากกว่าปกติ” นางขุชชุตตรา ได้บอกตามความเป็นจริงว่า “เมื่อก่อนนั้นได้ยักยอกเงินไว้เพื่อตนเองครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้หลังจากได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระบรมศาสดาจนบรรลุอมตธรรมแล้ว เห็นว่าการกระทำอย่างนั้นไม่ควร จึงได้ซื้อดอกไม้ทั้ง ๘ กหาปณะ”
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    สุพรหมเทพบุตร l "รู้ว่าจะไปนรก เข้าหาพุทธะ ปิดอบาย" #พุทธวจน #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #นิทานชาดก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 2, 2025

    เรื่องราวของเทพบุตรสุพรหมในสวรรค์ดาวดึงส์ที่ได้ประสบกับเหตุการณ์ที่นางฟ้าบริวารสิ้นชีวิตกะทันหันขณะเที่ยวเล่นในสวนนันทวัน ด้วยความตกใจและตระหนักว่าตนเองก็กำลังจะจุติไปสู่อเวจีมหานรกในอีกไม่ช้า สุพรหมเทพบุตรจึงเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อขอคำแนะนำในการพ้นจากความกลัวและความทุกข์ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาว่าด้วยปัญญา ความเพียร การสำรวมอินทรีย์ และการสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อนำไปสู่การหลุดพ้น ซึ่งเทพบุตรสุพรหมได้บรรลุโสดาปัตติผลในท้ายที่สุด ธรรมเทศนานี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจริญโพชฌงค์และวิปัสสนาเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน.
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    หลวงปู่ชา ผู้ถือธุดงค์เดี่ยว

    หลวงตา
    Dec 6, 2023
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    อาจารย์ยอด : หลวงพ่อแดง เทพเจ้าเขาบันไดอิฐ [พระ] new

    อาจารย์ยอด
    May 28, 2020
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    ประวัติหลวงพ่อแดง เทพเจ้าเขาบันไดอิฐ
    250px-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87.jpg
    ชื่ออื่น หลวงพ่อแดง
    ส่วนบุคคล
    เกิด 17 กันยายน พ.ศ. 2422 (95 ปี)
    มรณภาพ 16 มกราคม พ.ศ. 2517
    ศาสนา พุทธ
    ตำแหน่งชั้นสูง
    ที่อยู่ วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    อุปสมบท 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2444
    พรรษา 75→
    ตำแหน่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ
    พระครูญาณวิลาศ เกิดเมื่อวันวันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ จ.ศ. 1241 ตรงกับวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2422 ณ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี[1] เป็นบุตรคนที่ 5 ของนายแป้น กับนางนุ่ม อ้นแสง มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดารวมทั้งสิ้น 9 คน ได้แก่




      • นางเยีย อ้นแสง
      • นางเตี้ย อ้นแสง (มนต์ชู)
      • นางเจ็ก อ้นแสง (ทับสี)
      • นางสาวเปรม อ้นแสง
      • พระครูญาณวิลาศ (แดง รตฺโต)
      • นางเทียบ อ้นแสง (ทับสี)
      • พระครูปัญญาโชติวัฒน์ (เจริญ ธมฺมโชติ)
      • นางเล็ก อ้นแสง
      • นางน้อย อ้นแสง (เกิดประดับ)
    พระครูญาณวิลาศมรณภาพเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2517 เวลา 21.05 น. สิริอายุ 96 ปี[2][3]

    อุปสมบท

    ในวัยเยาว์ท่านช่วยพ่อแม่ทำไร่ ทำนา ไม่มีโอกาสร่ำเรียนหนังสืออย่างเด็กสมัยนี้จนกระทั่งอายุ 20 ปี พ่อแม่ก็หวังจะให้บวชเรียน จึงพาไปฝากกับเจ้าอธิการเปลี่ยน วัดเขาบันไดอิฐ เพื่อจะได้เล่าเรียน และบวชเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2444 เวลา 15.13 น. โดยมีพระครูญาณวิสุทธิ (พ่วง) วัดแก่นเหล็ก เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเปลี่ยน วัดเขาบันไดอิฐ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการอ่ำ วัดทองนพคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า "รตฺโต" แปลว่า"สีแดง"

    ศึกษาธรรม[4]
    หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้ว เจ้าอธิการเปลี่ยนจึงได้สอนวิชาการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้ นอกจากเจ้าอธิการเปลี่ยนผู้สอนแล้ว หลวงพ่อแดงยังมีพระอาจารย์ผู้สอนพุทธาคมให้อีก 2 รูป นั่นคือพระสุวรรณมุนี (ฉุย สุโข) วัดคงคาราม จ.เพชรบุรี และหลวงพ่อแช่ม อินฺทโชโต วัดตาก้อง จ.นครปฐม ซึ่งมาร่วมนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าอธิการเปลี่ยนในถ้ำที่วัดเขาบันไดอิฐ อยู่เป็นประจำ ทำให้หลวงพ่อแดงได้ฝากตัวเรียนวิทยาคมกับท่านทั้งสองด้วย เรื่องดังกล่าวนี้มีหลักฐานยืนยัน เพราะ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อแดงเคยเล่าไว้ในบทความว่า หลวงพ่อแดงท่านเคารพพระเถระสองรูปนี้มาก โดยหลวงพ่อแดงจะพกเหรียญอาจารย์ของท่านไว้ในย่ามเสมอ

    ชีวิตสมณะ
    หลวงพ่อแดงเป็นพระที่ประพฤติเคร่งครัดต่อพระวินัย สมถะไม่ชอบความยุ่งยากจากพิธีการ และไม่ชอบความสิ้นเปลืองจนเกินพระวินัย ท่านมักจะสอนศิษยานุศิษย์ของท่านให้มีความกตัญญู ซื่อสัตย์สุจริต โดยเปรียบเทียบกับตัวท่านเองว่า “อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ยังได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ เพราะฉะนั้น! ขอให้ถือความสุจริต และทำคุณประโยชน์ของเราให้เด่นชัด ความดี ความชอบ จะนำมาซึ่งทุกอย่าง” แม้หลวงพ่อแดงจะไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ท่านมีความวิริยะอุตสาหะในการสั่งสอน และปกครองคณะสงฆ์ หลวงพ่อแดงเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดเขาบันไดอิฐ เพื่อให้พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ท่านเคยปรารภไว้ว่า “ฉันอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จึงอยากให้พระเณรได้เล่าเรียน” หลวงพ่อแดงมีชื่อเสียงในทางสอนวิปัสสนากรรมฐานแก่พระภิกษุสามเณรตลอดจนอุบาสกอุบาสิกา โดยพระภิกษุทั้งในและนอกอารามให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2502 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูญาณวิลาศ[5]

    สมณศักดิ์

    มรณภาพ
    หลวงพ่อแดงมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันพุธ แรม 8 ค่ำ เดือน 2 ปีฉลู ตรงกับวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2517 สิริอายุ 95 ปี พรรษาที่ 73 ก่อนมรณภาพท่านเคยพูดกับพระปลัดบุญส่ง ธัมมปาโล รองเจ้าอาวาสวัดขณะนั้นว่า “เมื่อฉันหมดลมหายใจแล้วอย่าเผา ให้เก็บร่างฉันไว้ที่หอสวดมนต์ และให้เอาเหรียญที่ปลุกเสกรุ่น 1 ใส่ปากไว้พร้อมเงินพดด้วง 1 ก้อน ส่วนนี้ฉันเอาไปได้และให้เอาขมิ้นมาทาตัวฉันให้เหลืองเหมือนทองคำ” พระบุญส่งจึงรับปาก และได้ทำตามที่หลวงพ่อประสงค์ทุกอย่าง

    ปัจจุบันสรีระของท่านยังประดิษฐานอยู่ในหีบประดับมุกซึ่งตั้งอยู่ที่หอสวดมนต์วัดเขาบันไดอิฐ โดยประชาชนสามารถกราบนมัสการได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น.
    :- https://th.wikipedia.org/wiki/พระครูญาณวิลาศ_(แดง_รตฺโต)
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    พระโสณาเถรี l เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ปรารภความเพียร #พระพุทธเจ้า #คนตื่นธรรม #โหนกระแส

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Dec 15, 2024

    พระโสณาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ปรารภความเพียร
    จากเศรษฐีเป็นอนาถา / ไร้ที่พึ่งพาจึงออกบวช / พอสำเร็จอรหันต์ก็แสดงอภินิหาริย์ /ได้รับยกย่องว่าเลิศทางความเพียร พระโสณาเถรี เกิดในตระกูลเศรษฐี ในเมืองสาวัตถี ได้ชื่อว่า “โสณา” เมื่อเจริญวัยแล้วได้มีคู่ครองที่มีฐานะเสมอกัน อยู่ร่วมกันมามีบุตร ๗ คน มีธิดา ๗ คน เมื่อบุตรธิดาทั้งหลายเจริญวัยแล้วได้แต่งงานมีคู่ครองเรือนแยกย้ายกันออกไปอยู่ตามลำพัง ต่างก็มีฐานะความเป็นอยู่สุขสบายตามสมควรแก่อัตภาพฆราวาสวิสัย ต่อมาสามีของนาง ถึงแก่กรรมลง นางได้ปกครองดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดโดยยังมิได้จัดสรรแบ่งปันให้แก่บุตรธิดาเลย และต่อมา บุตรธิดาเหล่านั้นได้พากันพาพูดกับนางบ่อย ๆ ว่า:- “คุณแม่ บิดาของพวกข้าพเจ้าก็ตายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติเหล่านี้แม่จะเก็บเอาไว้ทำไม หรือแม่เกรงว่าพวกเราทั้ง ๑๔ คนนี้จะเลี้ยงแม่ไม่ได้” นางโสณาได้ฟังคำของลูก ๆ มาพูดกันอยู่บ่อย ๆ ก็คิดว่า “เมื่อเราแบ่งทรัพย์สมบัติให้ แล้ว ลูก ๆ ก็คงจะเลี้ยงดูเราให้มีความสุขได้ ไม่ต้องลำบาก” เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว นางก็แบ่งทรัพย์สมบัติให้แก่ลูกชายหญิงทั้ง ๑๔ คน ๆ ละเท่า ๆ กันแล้วนางก็ไปอยู่อาศัยกลับลูกชายคนโต เมื่อไปอยู่ใหม่ ๆ ก็ได้รับการปฏิบัติ ดูแลอย่างดี แต่เมื่อนานไปลูกสะใภ้ก็เริ่มมีความรังเกียจ พูดจาเสียดสีขึ้นวันละเล็กวันละน้อย พร้อมทั้งไปยุแหย่ให้สามีรังเกียจแม่ของตนเอง เมื่อพูดบ่อย ๆ เข้า สามี ก็เห็นคล้อยตามด้วย จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกสะใภ้ได้พูดกับนางว่า:- “คุณแม่ความจริงแม่ก็มีลูกชายลูกหญิงตั้งหลายคน ทรัพย์สมบัติทั้งหลายแม่ก็แบ่งให้ เท่า ๆ กัน มิใช่ว่าฉันจะได้ ๒ ส่วนมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ทำไมแม่จึงมาอยู่มากินแต่ที่บ้านฉันคนเดียว แม่ไม่รู้จักทางไปบ้านลูกคนอื่นเลยหรือ ?”
    ไร้ที่พึ่งพาจึงออกบวช
    นางโสณา ได้ฟังคำของลูกสะใภ้แล้ว อีกทั้งลูกชายก็ดูท่าทีคล้อยตามภรรยาของตน นางจึงจำใจห่อของใช้ส่วนตัวไปอาศัยลูกคนต่อ ๆ ไป และเหตุการณ์ก็เป็นไปทำนองเดียวกัน นางไม่สามารถจะพึ่งพาอาศัยลูกชายและลูกหญิงทั้ง ๑๔ คนนั้นได้ จึงคิดว่า “จะมีประโยชน์อะไรกับการอาศัยลูกเหล่านี้เราไปบวชเป็นภิกษุณีจะดีกว่า” นางโสณา ได้ไปยังสำนักภิกษุณีสงฆ์ ขอบรรพชาอุปสมบทเป็นภิกษุณี เพราะความที่ นางเป็นผู้มีลูกมาจึงได้ชื่อว่า “พหุปตติกาเถรี” นางเองก็คิดว่า “เราบวชในวัยชราไม่ควรที่จะอยู่ด้วยความประมาท” จงได้ช่วยนางภิกษุณีทั้งหลายทำวัตรปฏิบัติตามกิจของภิกษุณีสงฆ์ แต่เพราะความเป็นผู้บวชใหม่ และอยู่ในวัยชราจึงทำกิจบกพร่อง นางภิกษุณีทั้งหลายจึงกระทำทัณฑกรรมลงโทษแก่เธอโดยให้เธอทำหน้าที่ ต้มน้ำอุ่นให้ภิกษุณีทั้งหลายสรง ทั้งเช้า-เย็นเป็นประจำบุตรธิดาของเธอได้มาเห็น ก็พากันพูดจาเยาะเย้ยจนเธอรู้สึกสลดใจ วันหนึ่ง พระโสณาเถรี ได้ไปหาฟืนและตักน้ำมาไว้ในโรงครัว แต่ยังมิได้ก่อไฟ พระเถรีก็คิดว่า “เราไม่ควรประมาท ควรจะอาศัยเวลาและสถานที่อันสงบสงัดนี้ บำเพ็ญสมณธรรมทั้งกลางวันและกลางคืน” คิดดังนี้แล้วก็ได้พิจารณาอาการ ๓๒ ท่องบนภาวนาไปเดินจงกรมไปโดยยึดเสาโรงครัวเป็นแกนกลางเดินวนรอบเสาสำรวมจิตเจริญวิปัสสนา สำเร็จอรหันต์แสดงอภินิหาริย์
    ขณะนั้น สมเด็จพระบรมศาสดา ประทับอยู่ในพระคันธกุฎี ทรงทราบด้วยพระฌาณ จึง ทรงเปล่งพระโอภาสรัศมีปานประหนึ่งว่าประทับอยู่ตรงหน้าพระเถรีนั้นแล้วตรัสสอนว่า:- “ดูก่อนนพหุปุตติกา ชีวิตความเป็นอยู่เพียงวันเดียวครู่เดียว ของผู้ที่เห็นธรรมอันสูงสุดที่เราได้แสดงแล้ว ดีกว่าประเสริฐกว่าชีวิตความเป็นอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี ของผู้ไม่เห็นธรรม”
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    พระอนุรุทธเถระ l เอตทัคคะผู้มีทิพยจักษุญาณ ปฐมเหคุผ้าป่า-บังสกุล #พระพุทธเจ้า #คนตื่นธรรม #โหนกระแส

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Nov 19, 2024

    พระอนุรุทธเถระ เอตทัคคะผู้มีทิพยจักษุญาณ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล
    พระอนุรุทธเถระ เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยท่านเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะผู้เป็นพระอนุชาของพระเจ้าสุทโธทนะ ผู้เป็นพระราชบิดาของเจ้าชายสิทธัตถะ พระอนุรุทธเถระ ออกผนวชพร้อมกับเจ้าราชกุมารอีก 5 พระองค์ และนายอุบาลีภูษามาลา ณ อนุปิยนิคม เมื่อท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านมักตรวจดูสัตวโลกด้วยทิพยจักษุอยู่เสมอ พระพุทธเจ้าจึงยกย่องท่านให้เป็นพระเอตทัคคะผู้เลิศทางทิพยจักษุญาณ (ตาทิพย์) พระอนุรุทธเถระ เอตทัคคะผู้มีทิพยจักษุญาณ ครั้นเมื่อพระพุทธองค์ตรัสสอนพระเถระแล้ว ได้เสด็จกลับสู่ที่ประทับ ส่วน พระอนุรุทธะ ได้บำเพ็ญสมณธรรมต่อไป ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล ตั้งแต่นั้นมา ท่านได้ตรวจดูสัตว์โลกด้วยทิพยจักษุญาณเสมอ
    ปฐมเหตุประเพณีการทอดผ้าบังสุกุล-ผ้าป่า สมัยหนึ่งท่านพระอนุรุทธเถระ จำพรรษาอยู่ที่เวฬุวันเมืองราชคฤห์ จีวรที่ท่านใช้อยู่นั้น เก่ามาก ท่านจึงแสวงหาผ้าบังสุกุล (ผ้าเปื้อนฝุ่น) ตามกองขยะ กองหยากเยื่อเพื่อนำมาทำจีวรครั้งนั้น อดีตภรรยาเก่าของท่านชื่อ ชาลินี ซึ่งจุติได้เกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เห็นพระเถระแสวงหาผ้าอยู่เช่นนั้นก็เกิดศรัทธาเลื่อมใส จึงนำผ้าทิพย์มาจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ และคิดว่า “ถ้าเราจะนำเข้าไปถวายโดยตรง พระเถระก็คงไม่รับแน่” จึงหาอุบายซุกผ้าผืนนั้นในกองขยะกองหยากเยื่อ มีชายผ้าโผล่ออกมาเพื่อให้พระเถระได้เห็น ในทางที่พระเถระกำลังเดินมุ่งหน้าไปทางนั้น พระเถระเห็นชายผ้าผืนนั้นแล้วถึงออกมาพิจารณาเป็นผ้าบังสุกุลและคิดว่า “ผ้าผืนนี้เป็นผ้าบังสุกุลที่มีคุณค่ายิ่งนัก” แล้วนำกลับไปสู่อาราม เพื่อจัดการทำจีวร
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    พระวักกลิเถระ l ภิกษุผู้เลิศด้านศรัทธาวิมุตติ#พระอรหันต์ #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Apr 1, 2025
    ในอดีตชาติ สมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตร พระวักกลิเถระได้เกิดในเรือนมีสกุลในกรุงหังสาวดี วันหนึ่ง ท่านได้ไปวิหารกับอุบาสกทั้งหลายและได้เห็นพระพุทธเจ้าปทุมุตตรทรงแต่งตั้งภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งภิกษุผู้เลิศด้านน้อมไปในศรัทธา ท่านปรารถนาตำแหน่งนั้น จึงได้ถวายทานแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ตลอด 7 วัน และตั้งความปรารถนา พระพุทธเจ้าปทุมุตตรทรงเห็นว่าความปรารถนานั้นไม่มีอันตราย จึงทรงพยากรณ์ว่าท่านจะสำเร็จความปรารถนานี้ ในครั้งนั้น ท่านเป็นบุตรของพราหมณ์ในพระนครหังสาวดี ได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าปทุมุตตร ผู้ทรงยังชนทั้งปวงให้ยินดีด้วยสำเนียงอันไพเราะและพระธรรมเทศนาอันลึกซึ้ง พระพุทธเจ้าปทุมุตตรได้ทรงชมเชยสาวกของพระองค์ว่า ไม่มีภิกษุอื่นใดที่พ้นกิเลสด้วยศรัทธา มีความคิดดี ขวนขวายในการดูเรา เช่นกับภิกษุชื่อวกรินี้เลย เมื่อได้สดับพระพุทธภาษิตนั้น ท่านจึงชอบใจในตำแหน่งนั้น ท่านได้นิมนต์พระตถาคตพร้อมด้วยพระสาวกให้เสวยตลอด 7 วัน และถวายผ้า ท่านได้หมอบลงกราบทูลขอให้ได้เป็นเช่นเดียวกับภิกษุผู้มีศรัทธาธิมุตติที่พระพุทธองค์ทรงตรัสชมเชย พระมหามุนีได้ตรัสในท่ามกลางบริษัทว่า ให้ดูมานพผู้นุ่งผ้าเหลือง ผู้มีอวัยวะอันบุญสั่งสมให้คล้ายทองคำ ในอนาคตกาล มานพผู้นี้จะได้เป็นพระสาวกของพระโคดม ผู้แสวงหาคุณใหญ่ ในกัปที่แสนจากกัปนี้ จะมีพระศาสดาพระนามว่าโคตมะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก มานพผู้นี้จะเป็นธรรมทายาทของพระศาสดาพระองค์นั้น จะเป็นสาวกของพระศาสดามีชื่อว่า วักกลิ หลังจากตายจากมนุษย์แล้ว จะไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และหลังจากท่องเที่ยวในเทวโลกและมนุษย์ พุทธโลก ถึงกาลแห่งพระพุทธเจ้าโคตมะของพวกเรา พระเถระนี้มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ กรุงสาวัตถี พวกญาติได้ตั้งชื่อให้ว่า "วักกลิ" เมื่อยังเป็นเด็กอ่อน มารดาของท่านได้ถวายทารกนั้นแด่พระพุทธเจ้าเพื่อขอให้เป็นที่พึ่ง เพราะกำลังมีภัยจากปีศาจ ท่านเล่าว่า ในภพสุดท้ายนี้ ท่านได้เกิดในสกุลหนึ่งในพระนครสาวัตถี มารดาของท่านถูกภัยจากปีศาจคุกคาม มีใจหวาดกลัว จึงได้นำท่านผู้ละเอียดอ่อนไปถวายแด่พระผู้แสวงหาคุณใหญ่ พร้อมกราบทูลขอให้พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของเขาด้วยเถิด ในครั้งนั้น พระมุนีผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์ผู้กำลังหวาดกลัว ได้ทรงรับท่านด้วยฝ่าพระหัตถ์อันอ่อนนุ่ม นับแต่นั้นมา ท่านก็เป็นผู้ที่ได้รับการรักษาโดยพระพุทธเจ้า จึงพ้นจากความป่วยไข้ทั้งปวงและอยู่โดยสำราญ เมื่อเจริญวัยแล้ว ท่านได้เล่าเรียนไตรเพศจนจบศิลปศาสตร์ของพวกพราหมณ์ทั้งหมด วันหนึ่ง ท่านได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้วมองดูพระรูปกายสมบัติโดยไม่รู้สึกอิ่มในการมอง จึงเที่ยวจาริกไปกับพระศาสดา ไม่ต้องการอยู่บ้าน เพราะคิดว่าอยู่บ้านแล้วจะไม่ได้เห็นพระศาสดาเป็นนิจ ถึงวันหนึ่ง ท่านก็ตัดสินใจบวชในสำนักของพระองค์ เว้นแต่เวลาที่ขบฉันและเวลาทำสรีระส่วนตัวเท่านั้นที่ท่านยอมละการมอง เวลาที่เหลือทั้งหมดท่านจะไปยืนในที่ที่จะมองเห็นพระพุทธเจ้าได้ การงานอื่นใดท่านก็ทิ้งหมดเพื่อเฝ้าดูพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ในการสาธยายและการบำเพ็ญกรรมฐานเป็นต้น ท่านก็มิได้กระทำ ในอรรถกถาได้อธิบายพระสัตธรรมในพระพุทธดำรัสที่ว่า "บัณฑิตใดเห็นสัตธรรม บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา" ออกเป็น 3 ประเภท คือ:
    • *ปริยัติสัทธรรม* คือ การเล่าเรียนพระพุทธพจน์ หรือการเรียนพระไตรปิฎก
    • *ปฏิบัติสัทธรรม* คือ การปฏิบัติตามไตรสิกขา หรือมรรคมีองค์ 8
    • *ปฏิเวสสัทธรรม* คือ การบรรลุอริยมรรค อริยผล และนิพพาน
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094
    โทษของสตรี สำหรับนักบวช **จุลลปโลภชาดก** #ชาดก 500 #คนตื่นธรรม #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 17, 2025

    *จุลลปโลภชาดก* ซึ่งเป็นเรื่องราวที่พระศาสดาทรงเทศนาเพื่อตักเตือนภิกษุรูปหนึ่งที่กำลังลุ่มหลงสตรี โดยเล่าถึงอดีตกาลที่ *พระโพธิสัตว์* เสด็จมาเกิดเป็นโอรสของพระเจ้าพรหมทัต และทรงมีพฤติกรรมแปลกประหลาดคือไม่ประสงค์จะใกล้ชิดสตรีเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งกษัตริย์ทรงให้หญิงฟ้อนรำมายั่วยวน ซึ่งทำให้พระโพธิสัตว์หลงใหลในกามและทรงหึงหวงไม่ต้องการให้สตรีของตนใกล้ชิดบุรุษอื่น ท้ายที่สุดพระโพธิสัตว์ทรงเห็นพระดาบสรูปหนึ่งผู้เสื่อมฌานเพราะถูกสตรีล่อลวง ทำให้ทรงสำนึกและกลับเข้าป่าบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จ *พรหมโลก* ชาดกนี้เน้นย้ำถึง *โทษของสตรี* ที่สามารถทำลายพรหมจรรย์และนำไปสู่ความเสื่อมได้.
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,094

แชร์หน้านี้

Loading...