เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล๒๕๑๑

Discussion in 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' started by Jumbo A, Aug 17, 2022.

Tags: Add Tags
  1. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 21, 2012
    Messages:
    8,174
    Ratings:
    +7,221
    ขอจองครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 1
    • List
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    FB_IMG_1750939840896.jpg FB_IMG_1750940041799.jpg FB_IMG_1750939859715.jpg FB_IMG_1750940036683.jpg

    หลวงพ่อได้เอ่ยปากกล่าวไว้ว่า ใช้คุ้มครองคนที่ดวงยังไม่ถึงฆาตได้
    (แจกทหารไปรบเวียดนาม)
    พระหลวงพ่อนาคเนื้อผง วัดจันเสน นครสวรรค์ ๒๕๑๓ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ,หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ฯลฯ ปลุกเสก
    ของดีราคาถูกของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ที่ทุกคนสามารถจับจองได้
    พระเนื้อผง หลวงพ่อนาค พิมพ์กลับบัว พ.ศ.๒๕๑๓
    หลวงพ่อนาคเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปางนาคปรก ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่วัดจันเสนครับ
    เมื่อพูดถึงวัดจันเสนก็ต้องนึกถึงพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ชื่อเสียงขจรทั่วเมืองไท

    นามท่านคือ พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด ปัญญาโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสน
    พระเนื้อผงหลวงพ่อนาค ได้สร้างเมื่อปี ๒๕๑๓ เจตนาเพื่อแจกจ่ายแก่ญาติโยมที่เดินทาง
    มางานปิดทองฝังลูกนิมิต และบรรจุกรุที่หอระฆังและหลุมลูกนิมิต จำนวนการสร้าง ๘๔๐๐๐องค์
    โดยบรรจุกรุ ๔๒๐๐๐ องค์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีไว้บูชา หรือทางวัดต้องการปัจจัยในการ
    บำรุงเสนะสถาน ก็จะได้เปิดกรุนำออกมาให้บูชาได้
    พระเนื้อผงรุ่นนี้ผู้ที่ดำริในการแกะแม่พิมพ์ก็คือ ท่านพระครูนิวิฐธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเจริญ)
    เจ้าอาวาสองค์ประจุบัน ได้ให้ช่างที่กรุงเทพฯแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาด้วยหินมีดโกน และจึงนำไป
    ถวายหลวงพ่อโอด ท่านชอบใจในพระพุทธลักษณะที่งดงามมาก และอนุญาตให้กดพิมพ์ได้
    ท่านกล่าวว่า "คุ้มครองผู้ที่ดวงไม่ถึงคาดได้"
    เนื้อหามวรสาร ประกอบด้วย ผงพุทธคุณ ผงเกสรดอกไม้บูชาหลวงพ่อนาค เกสรบัวในบึงจันเสน
    เปลือยหอยโข่งโบราณ ถ้วยชามโบราณจากเมืองจันเสน กล้วยและข้าวเหนียวเป็นตัวผสาน
    พิธีพุทธาพิเศก จัดขึ้นในวันเสาร์๕ ขึ้น๕ค่ำ เดือน๕ ของปี พ.ศ.๒๕๑๓ โดยนิมนต์พระเกจิ
    มานั้งปรกปลุกเสกจำนวนมาก โดยมีเรื่องน่าแปลกก็คือ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ท่านไม่เคย
    ไปนั้งปรกปรุกเสกนอกวัดเลย ไม่ว่าใครจะมานิมนต์ แต่งานนี้ท่านกลับมานั้งปรกปลุกเสก ซึ่งน่า
    จะมาจากหลวงพ่อโอดท่านเป็นศิษย์ที่หลวงพ่อพรหมท่านเมตตานั้นเอง รายชื่อพระคณาจารย์มีดังนี้
    1.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
    2.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
    3.หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรี
    4.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    5.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    6.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    7.หลวงพ่อแกล วัดส้มเสี้ยว จ.นครสวรรค์
    8.หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม จ.สิงห์บุรี
    9.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร จ.นครสวรรค์
    10.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
    11.หลวงพ่อเชน วัดสิงห์ จ.สิงห์บุรี
    12.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
    เห็นรายนามของพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว บอกได้คำเดียวว่าสุดยอด
    แต่เดี๋ยวก่อนมันไม่เท่านั้น หลังจากเสร็จพิธีแล้ว “หลวงพ่อพรหม
    ได้ออกมานอกพระอุโบสถแล้วร้องประกาศว่า เฮ้ย ใครมีปืนบ้าง...
    ลองยิงข้ามหลังคาโบสถ์...ดูทีหรือ...ถ้ายิงออกอ้ายพรหมเอาหัวเป็นประกัน !!!!”
    มีนักเลงใจเด็ดชื่อพยับ ชักปืนลูกโม้ขึ้นมายิงไปทางพระอุโบสถ 3นัด
    ปรากฏเสียงดัง แชะๆๆ นายพยัพเห็นดังนั้นก็เลยหันปากกระบอกปืนไปทางหน้าวัด
    และยิงออกไป เสียงปืนดังลั่น เปรี้ยงๆๆ คนที่อยู่ในเหตุการณืจึงแห่ไปเช่าบูชากัน
    อย่างล้นหลามที่เดียว....

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250626_191210.jpg IMG_20250626_191240.jpg
     
    Last edited: Jun 26, 2025 at 8:06 PM
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    p9050001s-jpg.jpg
    สืบหาพระเครื่องดี
    ยังไม่สิ้นขลัง หลวงพ่อสังข์ ชุติมนโต
    เห็นจะต้องพูดถึงหลวงพ่อสังข์ ชุติมนฺโต หรือ พระครูประโชตินวการ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่กลอ ผู้ร่ำรวยความขลัง และ ทิ้งขลังไว้เป็นมรดกไม่น้อยอีกครั้ง
    หมู่นี้บ่นกันมากว่าหาพระดีๆ ยากเย็นแสนเข็ญเข้าทุกวัน ที่เป็นพระดีก็มรณภาพกันเกือบหมดแล้ว ที่ยังอยู่ให้กราบไหว้นั้นก็ไม่ทันรู้แน่ว่า จะคงความเป็นพระดีไปถึงไหน
    กำลังทำท่าว่าจะเป็นพระดีๆอยู่แท้ๆ ก็ได้ยินว่าสึกไปเฉยๆ
    สึกเพราะผู้หญิงก็มี
    ถูกจับสึกก็มี
    พระดีมันต้องดีจนกระทั่งตายไปกับความดีให้เห็นกับตา จึงจะแน่ใจได้ว่าดีจริงงั้นเถอะ
    ถึงงั้นบางทีตายไปแล้วก็ยังมีคนลอบขุดลอบคุ้ย ทั้งที่พระท่านก็หมดเวรหมดกรรมไปนานแล้ว
    ยิ่งขุดยิ่งเจออะไรๆที่มันแปลกประหลาดจนถึงกับขวัญเสียทิ้งพลั่วเผ่นหนีก็มี
    ในทางตรงกันข้าม ยิ่งขุดยิ่งนับถือก็มี
    ผมไม่เคยรู้จักหลวงพ่อสังข์เป็นการส่วนตัว พอเริ่มรู้จักชื่อของท่านก็สายไปมากแล้ว ทำให้ความรู้ทั้งปวงที่เกี่ยวกับตัวท่านมีน้อยที่สุด คงมีแค่เพียงเรื่องทหารยิงรถอีแต๋นฝ่าด่านเคอร์ฟิวส์เท่านั้นที่ตรึงใจอยู่ ตลอด เลยเป็นเหตุให้ตัดใจขาดจากท่านไม่ไหว พระขลังอย่างนี้ใครจะลืม แม้หลับตาลงยังฝันถึง พอตื่นใจมันก็ขึ้นชอบกล
    เห็นเหรียญรุ่นแรกอยู่ในคอใคร พอปรี่เข้าไปใครเขาก็หวง
    หวงได้หวงไป
    เขาไม่ได้สร้างแค่เหรียญเดียวเท่าที่เห็นนั่นหรอก
    ยังไงก็หาได้
    อย่าว่าแต่เหรียญรุ่นแรกเลย รุ่นไหนๆก็หาได้หมด
    ความโลภไม่เข้าใครออกใคร ตราบใดที่ยังไม่เห็นทางพระนิพพาน ความโลภย่อมเป็นเข็มทิศนำทาง
    เป็นเข็มทิศที่ทรงพลังเสียด้วย
    เมื่อโลภนั้นได้สิ่งหวังตั้งใจแล้วมันก็จะอ่อนแรงไปเอง
    เรียกว่าเป็นวิธีแก้โลภอีกแนวทางหนึ่งของปุถุชนที่เป็นชาวบ้านอยู่ในชุมชนขลังแบบผม
    ถ้ายังโลภอยากได้อยู่ ก็ขวนขวายหาให้ได้ โลภก็หายไปในที่สุด
    ถ้าเห็นว่าถูกใจ หรือเหมาะสมกับตัวเราแล้วอย่าลังเลเชียว
    ทุกรุ่นของหลวงพ่อดีหมด
    คนแถววัดรุ่นเก่าชอบเอาไปผูกคอหมา หรือใส่ปากปลาช่อนทดลองฟันอยู่บ่อยๆ พวกเขาไม่เลือกรุ่นกันเลย ขอแต่ให้เป็นของหลวงพ่อแล้วสบายใจทั้งสิ้น
    เรียกว่าเก็บของดี ไม่ใช่เก็บของแพง
    ถ้าจะเก็บของแพงแล้วล่ะก็ ตัวใครตัวมันแล้วล่ะกัน
    มีพระปิดตาอยู่รุ่นหนึ่ง หล่อด้วยตะกั่วเป็นฝีมือหล่อของหลวงพ่อทั้งหมด เข้าใจว่ามีจำนวนไม่มาก ท่านทำไว้ก่อนเหรียญรุ่นแรก คือทำขึ้นระหว่างปี 2516 เรียกชื่อว่า พระปิดตามหาราช ขนาดประมาณเล็บหัวแม่มือ หลังจารอักขระขอม เป็นทั้งของดีทั้งไม่แพงที่น่าจะหาได้ แต่ไม่แน่ใจว่าที่คุณประวิทย์จะมีหรือไม่ ถ้ามีก็ถือว่าเป็นโชคดี
    อย่าไปหาที่วัดนะครับ เพราะว่าที่นั่นไม่มีอะไรเหลืออยู่ ที่ยังเหลืออยู่ก็เป็นความทรงจำของเหล่าศิษย์ที่มีให้กับหลวงพ่อเท่านั้น
    ความทรงจำที่แสนดีและเปี่ยมล้นไปด้วยความอบอุ่น
    ความเป็นพระที่มากด้วยเมตตาที่แผ่ให้แก่คนทุกชั้น ไม่เลือกว่าสูงว่าต่ำ
    ความเป็นพระที่สมถะ ไม่สะสมวัตถุเงินทอง วัตถุมงคลใครสร้างมาเป็นแจกหมด ท่านว่าคนยากคนจนทั้งนั้นเอาเงินเขาไม่ลง แถมยังแจกทีละกำมืออีกด้วย
    ความ เป็นพระนักปฏิบัติ พอว่างจากรับแขกเป็นเข้าห้องปิดประตูเงียบ ห้องของท่านเป็นฝาไม้ มีทั้งรูทั้งช่อง ให้ศิษย์ขี้สงสัยแอบดูเมื่อไรเป็นเห็นท่านนั่งสมาธิอยู่เมื่อนั้น
    ผมจะลองทวนความทรงจำของเหล่าศิษย์ดูสิว่าจะมีจำเรื่องใดได้บ้าง
    ท่านชอบจาร
    ทุกเหรียญทุกรุ่น จะกี่พันกี่หมื่นจารหมด จารด้วยมือท่านเองผู้เดียว
    ท่านชอบประกอบพิธีกรรมทางขลังในระหว่างเวลาสุริยคราส หรือจันทรคราส ทั้งทำตะกรุด ลงนะหน้าทอง ลงของทั้งปวงให้กับทุกคนจนกว่าจะหมดเวลา
    นักมวยจะชอบให้ท่านลงผ้าเคียนมือ (ผ้าพันมือ) เวลาขึ้นชกไม่มีแตก
    มีนักมวยคนหนึ่งขึ้นชกในงานวัดหลวงพ่อ มีนักเลงถือปืนขึ้นไปยิงบนเวทีต่อหน้าคนดูทั้งสนาม ยิงไม่ออก นักมวยตกใจกลัว เผ่นลงจากเวทีวิ่งหนีไปหาหลวงพ่อ นักเลงไล่ตามไปยิงซ้ำถึงหน้าประตูห้องหลวงพ่ออีก 3 นัด แต่ไม่ออก ชาวบ้านผู้กล้าหาญได้กรูกันเข้าจับตัวนักเลงปืนไว้ได้
    วิชาดีอีกอย่างหนึ่ง คือ เสกทองเข้าตัว หลวงพ่อจะทำเฉพาะวันอังคาร กับวันเสาร์ โดยชโลมน้ำมันงาแล้วปิดทอง จากนั้นลงเหล็กจารทับแผ่นทอง เสร็จแล้วร่ายมนต์ตบลงไปที่แผ่นทอง
    ถ้าจะให้ได้ผลทางเมตตามหานิยม ใช้แผ่นทอง 9 แผ่น แต่ถ้า 108 แผ่น ปิดลงที่กลางหลังให้ผลทางคงกระพันชาตรี
    นักมวยที่ถูกไล่ยิงก็ได้ลงทอง 108 แผ่น ก่อนขึ้นเวที
    เลยรู้กันว่าเป็นมหาอุดด้วย
    ตะกรุด ซึ่งเป็นของขลังที่ผมชอบมากที่สุด กลับเป็นว่าท่านทำไว้น้อยมาก ไม่ได้ทำแจกโดยทั่วไป ทำให้เฉพาะคน
    เกี่ยวกับวัตถุขลังของท่าน ทราบว่ามีหลายแบบ หลายแนว ไม่แตกต่างจากอาจารย์ขลังของสำนักไหนๆ มีเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ หนังเสือ เขี้ยวเสือ ซึ่งของเหล่านี้หายากพอๆ กับตะกรุด
    ใครมีพี่เมีย น้องเมีย ญาติโกโหติกา เป็นคนข้างวัดใหม่กลอ ลองๆปลุกระดมความโลภออกไปแสวงหาดู
    —–
    คุณประวิทย์เคยถามหลวงพ่อเป็นการส่วนตัวว่า ใครเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน
    คำตอบคือ
    หลวงพ่อเสี่ยง วัดจันทรังสี อ.บัวใหญ่ เมืองโคราช ซึ่งทุกวันนี้ถือว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อเสี่ยงเป็นของยอดนิยมสุดในโคราช

    หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง โคราช ที่เหรียญรุ่นแรกยังน่าเก็บ เพราะว่ายังไม่แพงมากนัก
    หลวงพ่อปุ๊ก วัดพุทรา อ.เมืองโคราช เหมือนกัน ของขลังของท่าน ทั้งตำรวจและทหารชอบมาก ขึ้นชื่อลือชาทางเหนียวที่สุด
    สมัยหลวงพ่อสังข์ยังเป็นวัยรุ่นนั้นออกจะซุกซนเกเรไม่เบา ท่านแขวนพระปิดตาของหลวงพ่อปุ๊กประจำ ตีกันเมื่อไรไม่เคยแตก หลวงพ่อออกปากว่าหลวงพ่อปุ๊กเหนียวจริงๆ ถูกจริตของท่านเป็นอันมาก ในบรรดาครูบาอาจารย์ทั้ง 3 องค์ หลวงพ่อสังข์จะพูดถึงหลวงพ่อปุ๊กบ่อยที่สุด บางทีเมื่อท่านได้ทำของขลังด้วยตัวเอง จึงโดดเด่นตามแนวทางหลวงพ่อปุ๊ก คือ เหนียวเป็นเอก
    เรียกว่าเจริญรอยตามความเหนียวแห่งหลวงพ่อปุ๊กทุกกระเบียด
    เมื่อทราบเช่นนี้ความโลภในเม็ดเลือดทุกเม็ดของผมก็พลุ่งพล่านต้องการหาทาง ดับโลภให้ได้โดยพลัน พรรคพวกที่โคราชก็บอกว่า หลวงพ่อปุ๊กออกจะหายากเกินไปหน่อย คงต้องใช้เวลาดับโลภให้ผมไม่น้อย ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่าโลภตัวนี้จะเหมือดหายอีกกี่เดือนกี่ปี
    โคราชนี้ ถ้าจะว่าไปแล้วเป็นเมืองที่เคยมีและยังมีครูบาอาจารย์ทางขลังสืบทอดกันมาทุกยุคทุกสมัย เหมือนอยุธยาที่ไม่เคยสิ้นพระดี เสียแต่ว่าออกจะเงียบเชียบเกินไป แม้คนทางใกล้ก็ไม่รู้จัก
    หลวงปู่เสาร์ วัดกุดเวียน ก็หนึ่งล่ะ ใครไปกราบแล้วจะติดใจ เป็นการถอดบุคลิกพระดีโคราช คือนอบน้อมถ่อมตัวแบบพระบ้านนอก มีเมตตาแผ่ให้ทุกคนโดยไม่มีประมาณ
    ยังมีอีกองค์หนึ่งที่เงียบสงัดจนน่าตกใจคือ หลวงปู่แสง สีลนนฺโท วัดหนองเขวา อำเภอโนนไทย เชื่อกันว่าท่านเป็นศิษย์อุปัชฌาย์กลั่น วัดพระญาติฯโดยที่ถามท่าน แล้วจะได้ความเงียบแทนคำตอบ เข้าใจว่าท่านเกรงจะเป็นการเอาชื่อครูบาอาจารย์มาขาย จึงนิ่งสนิท
    ทั้งยังกล่าวกันอีกว่าท่านคือ พระที่มีอาวุโสสูงสุดในเมืองโคราช คนโคราชจะเห็นพระชราภาพที่ตนไม่รู้จักนั่งในงานพิธีต่างๆ ตรงตำแหน่งพระที่มีพรรษามากกว่าใครเสมอ
    แปลกที่ความเงียบของท่านยังเงียบกริบ แม้ปรากฏตัวในที่ชุมชน
    ใครมั่นใจว่าตนมีฝีเท้าเบาสุด จงจรดปลายเท้าอันเงียบเชียบเข้าไปหาท่านเถิด บางทีจะเกิดวาสนาต้องตรงกัน ก็จะเป็นมงคลหาน้อยไม่
    จะเป็นที่ดับโลภอีกแห่ง ฤาจะมีผู้ใดล่วงรู้

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ เวปอำพลเจน.คอม

    พระครูประโชตินวการ"
    หลวงพ่อสังข์ ชุติมนฺโต
    วัดใหม่บ้านกลอ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
    ( พระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคมอันเข้มขลัง )
    ตำนานสายเหนียวคงกระพันชาตรีแห่งโนนสูง
    ประวัติหลวงพ่อสังข์_ชุติมนฺโต
    ท่านเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2456
    บิดาของท่านชื่อ นายสน มารดาชื่อ นางนาค นามสกุล ตรวจนอก
    วัยเด็กเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนวัดบ้านใหม่ จนกระทั่งอ่านออกเขียนได้
    เมื่ออายุครบบวชก็ทำการอุปสมบท ที่วัดบ้านใหม่(กลอ) เมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม พ.ศ. 2478
    โดยมีท่านพระปลัดแจ้ง เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์อยู่ เป็นอนุสาวนาจารย์
    พระอาจารย์เปีย เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    เมื่อท่านบวชแล้วท่านก็มุ่งหน้าเสาะหาครูบาอาจารย์ ปรมาจารย์สององค์แรก ก็มี หลวงพ่อเมฆ หลวงพ่อคง ซึ่งอยู่ที่วัดบ้านใหม่นั่นเอง จากนั้นท่านก็ไปขอเรียนวิชากับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม แม่ทัพธรรมสายหลวงปู่มั่น หลวงพ่อรอด วัดพะเนา
    หลวงพ่อปุก วัดพุทธา ที่สำคัญก็คือ หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง ผู้มีอำนาจจิตอันแก่กล้า หลังจากที่ได้เรียนวิชากับครูบาอาจารย์ต่างๆ ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านใหม่ จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส
    หลวงพ่อสังข์_ท่านชอบจารวัตถุมงคล
    ทุกเหรียญ ทุกรุ่น จะกี่พันกี่หมื่นจารหมด จารด้วยมือท่านเองผู้เดียว ท่านชอบประกอบพิธีกรรมทางขลังในระหว่างเวลาสุริยคราส หรือจันทรคราส ทั้งทำตะกรุด ลงนะหน้าทอง ลงของทั้งปวงให้กับทุกคนจนกว่าจะหมดเวลานักมวยจะชอบให้ท่านลงผ้าเคียนมือ (ผ้าพันมือ) เวลาขึ้นชกไม่มีแตกมีนักมวยคนหนึ่งขึ้นชกในงานวัดหลวงพ่อ มีนักเลงถือปืนขึ้นไปยิงบนเวทีต่อหน้าคนดูทั้งสนาม ยิงไม่ออก นักมวยตกใจกลัว เผ่นลงจากเวทีวิ่งหนีไปหาหลวงพ่อ นักเลงไล่ตามไปยิงซ้ำถึงหน้าประตูห้องหลวงพ่ออีก 3 นัด แต่ไม่ออก ชาวบ้านผู้กล้าหาญได้กรูกันเข้าจับตัวนักเลงปืนไว้ได้
    วิชาดีอีกอย่างหนึ่ง คือ เสกทองเข้าตัว หลวงพ่อจะทำเฉพาะวันอังคาร กับวันเสาร์ โดยชโลมน้ำมันงาแล้วปิดทอง จากนั้นลงเหล็กจารทับแผ่นทอง เสร็จแล้วร่ายมนต์ตบลงไปที่แผ่นทอง
    ถ้าจะให้ได้ผลทางเมตตามหานิยม ใช้แผ่นทอง 9 แผ่น แต่ถ้า 108 แผ่น ปิดลงที่กลางหลังให้ผลทางคงกระพันชาตรี นักมวยที่ถูกไล่ยิงก็ได้ลงทอง 108 แผ่น ก่อนขึ้นเวที เลยรู้กันว่าเป็นมหาอุดด้วย
    ตะกรุด ซึ่งเป็นของขลังที่ลูกศิษย์ชอบมากที่สุด กลับเป็นว่าท่านทำไว้น้อยมาก ไม่ได้ทำแจกโดยทั่วไป ทำให้เฉพาะคน เกี่ยวกับวัตถุขลังของท่าน ทราบว่ามีหลายแบบ หลายแนว ไม่แตกต่างจากอาจารย์ขลังของสำนักไหนๆ มีเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ หนังเสือ เขี้ยวเสือ ซึ่งของเหล่านี้หายากพอๆ กับตะกรุด
    วัตถุมงคล ของท่านมีหลายชนิดและเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในวัตถุมงคลของท่านคือท่านจะลงเหล็กจารเอาไว้แทบทุกรุ่นที่ได้รับความนิยม ได้แก่เหรียญรุ่นแรกปี 17 เหรียญปี 19 พระกริ่งและ พระสมเด็จรุ่นแรก เป็นต้น

    1376038-51d6b-1-jpg.jpg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของรถบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระปิดตารุ่นแรกพิมพ์ใหญ่หลวงพ่อสังข์วัดบ้านใหม่กลอ มีรอยจารยันต์จารเปียกด้านหลัง จารเปียก คือ การจารในเนื้อพระตั้งแต่ เนื้อ พระ ยัง ไม่แห้ง แล้วลงเหล็กจารอักขระยันต์ในองค์พระ

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    img_20250626_163033-jpg.jpg img_20250626_162946-jpg.jpg img_20250626_162905-jpg.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    จัดส่ง เมื่อวาน และ วานก่อน
    1750956984604.jpg 1750956986361.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    FB_IMG_1751002589296.jpg FB_IMG_1751002525248.jpg

    เหรียญหลวงพ่อแดง วัดป่าสามัคคีธรรม รุ่นแรกปี21
    ท่านเจ้าคุณแดงเป็นศิษย์โดยตรงของท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม ครับ ท่านพ่อหมายมั่นปั้นมือให้ท่านเจ้าคุณแดงครองวัดต่อจากท่าน แต่เจ้าคุณแดงพยายามเลี่ยงตลอดมาด้วยเหตุผลว่า ศิษย์ท่านพ่อโดยมากเป็นพวกปากตะไกร และหัวดื้อ ว่ายากสอนยาก เขาเชื่อฟังนับถือแต่ท่านพ่อลีเท่านั้น เมื่อท่านพ่อลีนิพพานลง ท่านก็หาหนทางหนีจนได้โดยกลับไปพักวัดที่ท่านสร้างเอาไว้ชื่อวัดป่าสามัคคีธรรม ต.ท่าคันโท อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งช่วงนั้นท่านต้องดูแลวัดประชานิยม ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ด้วย
    ต่อมาท่านได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมาอยู่ราวสองสามพรรษา หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ก็มารับช่วงต่อ ท่านเจ้าคุณแดงจึงได้กลับไปอยู่วัดป่าสามัคคีธรรมอย่างถาวรสมปรารถนาท่าน แต่ถึงกระนั้นท่านก็ยังไป ๆ มา ๆ ระหว่างวัดท่านและวัดสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะวัดอโศการามที่ท่านไม่อาจทิ้งได้เสียทีเดียว เพราะอุตสาหะบากบั่นสร้างวัดนี้ขึ้นมากับมือร่วมกับท่านพ่อลี
    เหรียญรุ่นแรกของท่านเจ้าคุณแดงนั้นเป็นรูปทรงเสมา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. ๒๔๙๕ โดยคณะศิษย์ "วรจักร" เป็นผู้ขอสร้างถวาย ซึ่งท่านก็เมตตาอนุญาตเพราะคณะนี้เป็นกำลังหลักในการร่วมสร้างวัดอโศฯ มาด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นอุปัฏฐากสำคัญของท่านพ่อลีและท่านเจ้าคุณแดงเองด้วย แต่เมื่อรับเหรียญมาและอธิษฐานจิตเรียบร้อยแล้ว ท่านกลับคืนให้คณะผู้สร้างเพียงบางส่วนตามที่เขาขอ ส่วนที่เขาถวายท่านไว้ท่านไม่ได้แจกจ่ายเลย คงเก็บเงียบไว้และอธิษฐานพรอยู่เสมอ ๆ จวบจนวันท่านพ่อมาสร้างนาแม่ขาวขึ้นเป็นวัดอโศการามในปีพ.ศ. ๒๔๙๘ และประกอบพิธีฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษในปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านพ่อลีได้ทำพิธีพุทธาภิเษก "พระโพธิจักร" อันลือลั่น นอกจากการ "บินเดี่ยว" โดยท่านพ่อลีเองแล้ว ก็ยังมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงธรรมคุณและอภิญญามากมายเข้าร่วมอธิษฐาน อาทิ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม, หลวงปู่ดุลย์ อตุโล, หลวงปู่สาม อกิญจโน, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ,หลวงพ่อพุธ ฐานิโย และท่านเจ้าคุณแดงนี้องค์หนึ่ง เป็นต้น เหล่าศิษย์เชื่อมั่นกันว่าท่านเจ้าคุณแดงได้นำเหรียญเสมารุ่นแรกที่เหลือนี้มาเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยแน่นอน
    ต่อมาท่านได้ตัดสินใจนำเหรียญนี้ออกแจกในงานฉลองอายุครบ ๗๒ ปีของท่านประมาณปีพ.ศ. ๒๕๒๓ ทำให้หลายคนได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเหรียญรุ่นแรกของท่านมีอยู่จริง เป็นที่สังเกตว่าเหรียญเสมาที่ท่านอธิษฐานจิตอย่างยาวนานหลายสิบปีนี้ ท่านเจ้าคุณแดงจะ "จาร" อักขระที่ด้านหลังเหรียญเหนือยันต์ทั้งด้านซ้ายและขวาทุกเหรียญ หากเหรียญไหนไม่มีก็สรุปได้ว่าเป็นเหรียญที่ท่านแจกในปีที่สร้าง คือพ.ศ. ๒๔๙๕ นั่นเอง
    ส่วนเหรียญรูปไข่ปีพ.ศ. ๒๕๒๑ นั้น เกิดจากคณะศิษย์ชาวจังหวัดสมุทรปราการที่เลื่อมใสศรัทธาท่านขอสร้างขึ้น และด้วยความที่ไม่ทราบ ไม่ระแคะระคายมาก่อนเลยว่าท่านเจ้าคุณแดงนั้นมีเหรียญรุ่นแรกที่คณะศิษย์วรจักรขอสร้างอยู่ เมื่อท่านเจ้าคุณอนุญาตและกำหนดยันต์แล้ว ศิษย์สมุทรปราการจึงได้ใส่คำว่า "รุ่นแรก" ลงไปด้วย แต่หากจะมองให้เป็นว่า "รุ่นแรก" ของศิษย์สมุทรปราการที่สร้างถวาย ก็จะได้รับความสุขใจและน่ารักดีไปอีกแบบ
    แต่ไม่ว่าจะรุ่นไหนอย่างใด หากท่านเจ้าคุณแดง ธัมมรักขิโต ได้อธิษฐานจิตแล้วไซร้ วัตถุนั้น ๆ ย่อมเป็นของสูงค่าสูงพุทธคุณ เพราะอานุภาพจิตของท่านมหัศจรรย์ล้นเหลือแทบไม่ต่างจากท่านพ่อลีผู้เป็นบูรพาจารย์เลย ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมาวาส ยังได้กล่าวยกย่องถึงภูมิจิตภูมิธรรมของท่านเจ้าคุณแดงอยู่บ่อยครั้ง ท่านว่า เวลาเราเดินจงกรมแล้วง่วงเหนื่อยเมื่อยเพลีย คิดอยากเลิก หรือเดิน ๆ อยู่แล้วกลัวผีไม่อยากเดินอีกต่อไป เพียงได้ยินเสียงท่านเจ้าคุณแดงกระแอมไอและหวดหางกระเบนในอากาศเสียงดังเควี้ยวคว้าวตรงมาทางที่ท่านยืนอยู่ ความง่วงเหนื่อยเมื่อยเพลีย และความหวาดกลัวภูตผีเป็นอันเตลิดแน่บหนีเข้าป่าหมดสิ้น สามารถนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมได้อย่างแข็งขัน จิตทรงตัวเป็นสมาธิดีเยี่ยม นั่นเพราะอาศัยความกลัวและเกรงบารมีท่านเจ้าคุณแดงเป็นหนักหนา ไม่มีพระเณรรูปใดไม่กลัวเกรงในความดุและเอาจริงเอาจังของท่านเลย "

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250626_152653.jpg IMG_20250626_162829.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    วันนี้ จัดส่ง

    1751025012278.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    FB_IMG_1751038680725.jpg FB_IMG_1751038675343.jpg FB_IMG_1751038678069.jpg FB_IMG_1751038683420.jpg FB_IMG_1751038687592.jpg FB_IMG_1751038690699.jpg

    เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ปี ๒๕๑๑ วัดเขากง จ.นราธิวาส
    เหรียญดีพิธีใหญ่ ในหลวงทรงเสด็จเป็นประธาน หลวงปู่ทิม วัดช้างให้,พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา,หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ฯลฯ ยอดพระเกจิสายเขาอ้อ อาจารย์ ไชยคีรี ฯลฯร่วมพุทธาภิเษก
    จัดสร้างโดยนำชนวนมวลสารจากเกจิอาจารย์ดัง-สายใต้มากมาย อาทิเช่น หลวงปู่นาค วัดระฆัง อาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ และยังได้ทำการปลุกเสกอีกหลายวาระ
    รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
    1.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา
    2.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง
    3.พ่อท่านเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
    4.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กทม.
    5.พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
    6.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
    7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี
    8.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    9.พ่อท่านเขียว วัดหรงบล
    10.ฆราวาสสายเขาอ้อ ท่านขุนพันธุ์ฯ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ
    เหรียญรุ่นนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จมาเป็นประธาน สร้างจากชนวนวัตถุมงคลเก่าๆและตะกรุดของเกจิอาจารย์จำนวนมาก และต่อมายังเข้าปลุกเสกอีกหลายวาระ ในพิธีเททอง ขณะกำลังหลอมโลหะวัตถุดิบ ว่ากันว่าแผ่นยันต์ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย และของอาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลอมไม่ละลาย ทำให้ต้องตักแผ่นขึ้นมาใหม่ทำพิธีอีกจึงหลอมได้สำเร็จ
    วัดเขากง สถานที่ประดิษฐาน บริเวณพุทธอุทยาน วัดเขากงมงคลมิงมิตรปฏิฐาราม ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส สถานที่อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เป็นศรีสง่าแก่ภาคใต้องค์หนึ่งได้แก่ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปี ๒๕๐๙ แล้วเสร็จในปี ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จพระราชดำเนินทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเมื่อปี ๒๕๑๓
    พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มีพุทธลักษณะงดงาม ประกอบกับประดิษฐานอยู่ยอดเขาจึงสูงเด่นเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธา วัดเขากง-พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล จากตัวเมืองใช้ทางหลวงสายอำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอระแงะ (ทางหลวงสาย 4055) ประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 105 จะมองเห็นวัดเขากงและพระพุทธรูป ทักษิณมิ่งมงคลสีทอง ประทับนั่งปางประทานพรอยู่บนยอดเขา วัดเขากงตั้งอยู่ในตำบลเขากง อำเภอเมือง มีเนื้อที่กว้าง 142 ไร่ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 สิ้นค่าก่อสร้าง ทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านบาท องค์พระเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา หน้าตักกว้าง 17 เมตร สูงจากบัวใต้พระเพลา ถึงพระเกศบัวตูม 23 เมตร และ ได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยดินจากสังเวชนียสถาน มา ประดิษฐานที่พระอุระเบื้องซ้าย การก่อสร้างเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยกระเบื้องโมเสดสีทอง องค์พระพุทธรูป มีลักษณะตามอิทธิพลของสกุลศิลปะอินเดียใต้โจฬะรุ่นหลัง จะพบพุทธรูปสกุลนี้ มากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จนเรียกกันว่า "แบบนครศรีธรรมราช" หรือเรียกอย่างสามัญว่า พระพุทธรูป แบบ "ขนมต้ม" เนื่องจากพระวรกายล่ำสันทุกส่วน สังฆาฏิจัดกลีบแผ่กว้างเต็มพระอังสาเบื้องซ้ายและชายจีวร ใต้พระเพลาทำเป็นริ้วให้ความรู้สึกของการตกแต่งสวยงามกว่าแบบอื่นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากองค์พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลแล้ว ยังมีพระอุโบสถและเจดีย์สิริมหามายา ซึ่งเป็นรูปทรง ระฆัง ภายในโปร่ง บนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250627_225331.jpg IMG_20250627_225411.jpg
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    1751041289876.jpg

    ผูู้สืบทอดยันต์ อะ ปะ จะ คะ ของหลวงพ่อเฒ่า วัดคังคาว
    หลวงพ่อป่วน ทั้งเหรียญเเละพระผงของท่าน จะใช้คาถานี้ของหลวงพ่อเฒ่าตลอด
    ท่านมีความสนิทสนม เเละเคารพหลวงพ่อกวยมาก
    พระเครื่องยุคเก่าๆของท่าน มักนิมนต์หลวงพ่อกวยมาช่วยเสกเสมอ
    เเต่ตัวท่านเองนั้น ก็เก่งไม่เเพ้ใคร ตะกรุดโทนของท่าน เค้าว่าสมัยก่อน เอ็มสิบหก ยิงยังไม่ออก
    รูปหล่อของท่าน ทหารโดดร่มไม่กาง ตกมาไม่ตาย
    พระดี พระเก่ง อีกหนึ่งของอ.สรรคบุรีครับ
    ขอบพระคุณข้อมูลจาก เวป http://www.watkositaram.com
    Chatchai Intano
    19 ตุลาคม 2018 ·
    ว่ากันด้วยเครื่องราง ของหลวงพ่อป่วน เครื่องราง หลวงพ่อป่วน การสร้างน้อย มีจัดสร้างอยู่ สามอย่าง
    คือ ผ้ายันต์ กระกรุดโทน และปลัดขิกทำจากไม้พญางิ้วดำ
    กระกรุดโทนสร้างมาแต่ไม่ถึง 200 ดอก
    มีการสร้างสองรุ่นคือ รุ่นแรกปี2532 สร้าง จำนวน 72 ดอก เท่าอายุหลวงพ่อและกระกรุดรุ่นสอง สร้างจำนวน100 ดอก ในพิธีเสาร์ห้า ปี 2535 ปัจจุบันหาชมได้อยาก
    เดียวว่างจะมาเล่ารายอะเอียด
    ให้ฟังอีกที่ ส่วนปลัดขิก สร้างวาระเดียว ปี 2532 เนื้อไม้พญางิ้วดำ..จำนวนการสร้างน้อยมากมีทั้งใหญ่และเล็ก ขนาดใหญ่จะยาวประมาณ 2นิ้วครึ่ง
    และขนาดเล็กจะยาว ราวๆ2นิ้ว...
    จำนวนการสร้างมีไม่เกิน 100 ตัวทั้งใหญ่และเล็กรวมกัน.เนื่องจากไม้ที่หลวงพ่อได้มานั้น เป็นไม้งิ้วดำเก่า อายุหลายร้อยปี...
    เปลือกไม้พุป่น จึงไม่สามารถทำได้เยอะ
    ทำได้แค่ในเนื้อไม้ชั้นใน จึงทำให้ได้จำนวนการสร้างน้อย บางคนที่อยู่ในเหตุการ ในสมัยนั้นบอกจริงมีประมาณ 70-80 ตัวเท่านั้น......เดียวว่างๆจะถ่ายรูปสวยๆให้ชมครับ
    เข้าเรื่องเลยล่ะกัน วันนี้จะมาเล่าเรื่องราว
    เกียวกับผ้ายันต์ รุ่นต่างๆ
    ผ้ายันต์หลวงพ่อป่วน จัดสร้างสองวาระ
    วาระแรก สร้างปี 2532 เนื่องในงานทำบุญครบ 6 รอบ 72 พรรษา....ออกจำหน่าย ในงานวัด ช่วงเดือนตุลาคมตรงวันเกิดหลวงพ่อ ถือเป็นงานใหญ่ของวัดเป็นงานประจำปี ออกจำหน่ายพร้อมวัตถุมงคลอีกหลายรุ่นในปีนั้น ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จผงใบลาน ซื้งสร้างมาก่อนนั้น เพราะสมเด็จผงใบลานสร้างมาแต่ปี2525 เรื่อยมา จนถึงปี2532
    เดียวมา
    เล่าให้ฟังที่หลังเรื่องสมเด็จ. วันหลัง
    นอกนั้นยังมีเหรียญกลมรุ่นปลอดภัย สร้างปีเดียวกัน สมเด็จหลังรูปรุ่นทรัพย์ทวี ตระกรุดรุ่นแรก รูปหล่อบูชาหน้าตัก5นิ้ว รูปหล่อรุ่นแรก(เอ็ม16) ..
    ส่วนวาระ2 ผ้ายันต์ออกจำหน่ายในปี 2535 ผ่านพิธีเสาร์ห้า ถึง3ครั้ง มีสองแบบ แบบเเรกคือใช้บล็อคเดิม ของปี2532 แต่เปลี่ยนจาก คำว่าทำบุญวันเกิดเป็น เสาร์ห้าปี 36 และแบบที่สองคือ ผ้ายันต์ อะปะจะคะ ค่ายกล ตำหรับ หลวงพ่อเฒ่า วัดคังคาว ซึ่งหลวงพ่อป่วน บวชที่วัดคังคาว และได้เล่าเรียนสายวิชา อะปะจะคะ จากอุปชาของท่านคือ หลวงพ่อพระอุปชาสอน ท่านจึงสร้างผ้ายันต์รุ่นนี้ขึ้นเป็นการบูชาครู ระลึกถึงหลวงพ่อเฒ่า และหลวงพ่อสอนพระอุปชา......และในฐานะศิษย์สายตรง อะปะจะคะ...
    หลังจากนั้นหลวงพ่อก็ไม่สร้างวัตถุมงคลใดอีกเลยเนื่องจาก อาพาทหนัก วัตถุมงคลที่สร้างแล้วทั้งในวาระที่2 ที่เขียนปี2536
    ทั้งหมดแท้จริงคือสร้างในปี 2535 ทั้งสิ้น
    แต่ทางกรรมการวัดในสมัยนั้น ตั้งใจจะให้ออกจำหน่าย ในงานครบรอบวัดเกิดหลวงพ่อ ในวันที่15 ตุลาคม ปี2536.
    ซึ่งตรงกับวันเกิดหลวงพ่อและเป็นงานประจำปีของวัด....แต่หลวงพ่อท่านสังขราไม่่ไหว จึงให้ออกจำหน่าย วัตถุมงคลบางส่วนในช่วงต้น เดือนมกราคม ปี2536และท่านก็รับแขกนั่งพูดคุยอยู่ด้วยได้ไม่นาน เช่นดังก่อน สุขภาพไม่ดี
    ภายหลังจากนั้นไม่นาน อาการหลวงพ่อทรุดหนัก และมรณะภาพลงด้วยอาการ
    สงบ ที่ รพ สิงห์บุรีเวชการ ในวันที่26 กุมภาพันธ์ 2536 สิริอายุ 76 พรรษา.

    FB_IMG_1751040376598.jpg
    ภาพเจิม พระหล่อรูปเหมือน ขนาดเท่าองค์จริง
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม(วัดบ้านแค)..ผมว่าหลายคนไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้ พระองค์ที่กำลังเจิม คือหลวงพ่อป่วน วัดโพธิ์งาม องค์ที่ถือบาตรน้ำมนต์ หลังปะน้ำพุทธมนต์เสร็จ คือ หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ..
    ..
    งงกันละสิ ภาพถ่ายนี้ ถ่ายในพิธีนี้ปี 2523. หลังจากหลวงพ่อกวย ละสังขารได้ครบปี ..จึงได้มีการเบิกเนตร และนิมนต์ พระเถระเกจิ ที่เป็นศิษย์ร่วมสำนักของหลวงพ่อกวย และเป็นพระเกจิ ที่ไปมาหาสู่กัน นับถือกัน ครั้งนั้น มีหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่มอีกองค์...เหตุที่หลวงพ่อจวนไม่ได้ขึ้นมา คือสวดชะยันโตให้อยู่ และหลวงพ่อป่วนกับหลวงพ่อเชื้อ มีพรรษาแก่กว่า ถึงจะมียศศักดิ์พระครูเหมือนกันก็ตาม.
    ..
    ภาพนี้ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ อีกภาพหนึ่ง ผมเองสมัยเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว คนที่เล่าให้ผมฟังคือ ลุงเกาะ ข้องหลิม แกคือผู้ที่ติดตามหลวงพ่อป่วน ในสมัยนั้น.
    แก่เสียไปเมื่อ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมกลับไปอยู่.
    แก่เล่าให้สมัยก่อน หากมีกิจสำคัญ หลวงพ่อกวยจะไปไหนหลายวัน หรือมีช่วงที่หลวงพ่อไม่สบาย ช่วงปี 20-21 หลวงพ่อกวย จะเอากุญแจ กุฎิท่าน มาฝากกับหลวงพ่อป่วน เพราะไว้ใจหลวงพ่อป่วน หลวงพ่อกวยเรียกหลวงพ่อป่วนว่า พระครู แต่หลวงพ่อป่วนเรียกหลวงพ่อกวย ว่าหลวงพี่ หลวงพ่อกวยเป็นพระอธิการ ส่วนหลวงพ่อป่วน เป็นเจ้าคณะตำบลสมัยนั้น
    ..
    หลวงพ่อกวยกราบหลวงพ่อป่วนเวลาไปงาน แต่หลวงพ่อป่วนก็กราบหลวงพ่อกวยตอบ..เคารพกันเสมอมา..
    .
    ส่วนที่ผมบอกว่าหลวงพ่อเชื้อถือบาตรน้ำมนต์ ผมพิจารณามาพอสมควร จึงกล่าวได้เต็มปาก..ทรงหน้า หูตา ใฝ่ จมูก ชัดเจน เป็นหลวงพ่อเชื้อแน่ๆ หลวงพ่อเชื้อ กับหลวงพ่อป่วน มีลักษณะสูงโปร่ง พอๆกัน ตรงชัดเจนครับ..
    ..
    หลวงพ่อป่วนก็รู้จักหลวงพ่อเชื้อดี อาจเป็นศิษย์สำนักเดียวกันด้วย ดูจากรอยสัก แขนขวา เหมือนกัน พ่อกวย พ่อเชื้อ พ่อป่วน แต่ด้วยความเป็นพื้นที่ปกครอง สมัยนั้น บางขุด ดงคอน หลวงพ่อป่วนคุมจึง เป็นพระผู้เบิกเนตรเจิม พระหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อกวย ในมณฑปหลังเก่า แต่จริงก็ไม่ได้ยกไปไหน แต่ที่เห็นคือสร้างเติมขยายใหม่ ดังที่เราเห็นในปัจจุบัน.. ที่ไปกราบกันทุกวันนี้.
    ..
    ข้อมูลนี้หากเกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านได้รับรู้ถึงความเป็นมา หากได้บุญกุศล
    ขอบุญนี้จงเกิดแก่ นายสมพร ข้องหลิม(ลุงเกาะ) ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ผู้ที่เล่าประวัติให้ผมฟังครับ..
    ..
    .หากสิ่งที่กล่าวที่เขียนไป ผิดพลาดประการใด ผมขอรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว....
    ..แชมป์ Chatchai Intano ...ขอบคุณครับ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลขึ้นมาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จเนื้อผงใบลานหลวงพ่อป่วนวัดโพธิ์งาม

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250627_232554.jpg IMG_20250627_232621.jpg
     
    Last edited: Jun 27, 2025 at 11:49 PM
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 21, 2012
    Messages:
    8,174
    Ratings:
    +7,221
    ขอจองครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 1
    • List
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Feb 28, 2008
    Messages:
    13,313
    Ratings:
    +21,398
    FB_IMG_1751098876272.jpg FB_IMG_1751098562813.jpg

    หลวงปู่วรพรต_เหยียบรถกระดก” จ.ขอนแก่น
    ผู้มีธาตุขันธ์ กาย สังขาร เป็น มรกต หนึ่งเดียวใน โลก
    ประวัติ หลวงปู่วรพรตวิธาน.. นามเดิม ท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
    (ที่จริงแล้วท่านเกิดในปี พ.ศ 2437 แต่แจ้ง วันเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนเกิดไม่ทราบแน่ชัด) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอาไปรับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบวชเป็นสามเณร ณ.วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชณาย์มีฉายาว่า “ติสโส” ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมากท่องปฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปี พ.ศ 2472 หลวงปู่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงองรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด
    (รวมกาฬสินและมหาสารคามด้วย) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล
    หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหา ณ วัด หนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น (เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ จังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ 2473) ปี พ.ศ 2475 บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพล ประมาณ 150 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5
    พ.ศ 2480 หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ 2483 ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 2,500 บาท ปูนชีเมนต์สมัยนั้นถุงละ 1.50 บาท ปี พ.ศ. 2482 หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อ
    ของรัชการที่ 8 แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนาวัดจุมพลมาเรื่อยๆ ตลอดจนวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถและกุฎิ รวมทั้งศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 30 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีก ทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก
    หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ครีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ. ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุต ป้องกันขับไล่ คุณไสย คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรตท่าน ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับ
    พระอาจารย์ โส วัดบ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่ง ในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ ยังยิงไม่ออกแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของหลวงปู่ หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ
    หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถ
    มาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการ ท่านสามารถ ล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้าง วัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนา อยู่ทางจะไป อ. ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ
    (ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ 2 ปี เมื่อ พ.ศ. 2479 ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ. ขอนแก่น เพื่อกับวัดจุมพล ของท่าน
    หลังจากที่ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต และได้แยกทางกันที่ อ. มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพรตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจ แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้
    หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชการที่ 8 มีพระราชทินนามว่า “พระครูวรพรตวิธาน” เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต” ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรก ก็คือ

    เรื่องหลวงปู่เหยีบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยง หรือ
    ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้น ถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่ง ด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมา สมญานาม
    “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง”
    จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี เคยมีญาติโยมที่อยู่ไกลถึง จ. กระบี่ เดินทาง มากราบขอคาถาเหยียบรถกระดกจากท่าน ท่านก็มอบคาถานะโมพุทธายะให้ไป แต่จะทำได้เหมือนหลวงปู่ หรือ เปล่าไม่ทราบ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบทางข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จมหาอุตย์หลวงปู่วรพต

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250627_124210.jpg IMG_20250627_124241.jpg
     

Share This Page

Loading...